“เจ๋ง” ตามรอย “เด็จพี่-พสิษฐ์”ลงโฆษณา “มติชน” อ้างสำนึกผิดตุลาการศาล รธน. หวังได้รับปล่อยตัว

“เจ๋ง ดอกจิก” มาแนวใหม่ ใช้วิธีลงโฆษณาหน้าใน นสพ.มติชน ขอโทษและสำนึกผิดคณะตุลาการและครอบครัว อ้างไม่ได้มีเจตนาคุกคาม หวังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้โฆษกเพื่อไทย และอดีตเลขาฯ ตุลาการศาล รธน.ลงโฆษณาแบบเดียวกัน กระทั่งได้รับการถอนฟ้องมาแล้ว

วันนี้ (16 ก.ย.) มีรายงานว่า นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายฐานิสร์ เทียนทอง) และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 16 ก.ย. โดยเป็นการลงหนังสือขอโทษและแสดงความสำนึกผิด ระบุที่อยู่เป็นสถานควบคุมพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และครอบครัว เรื่องกราบขอโทษแสดงความสำนึกผิด ระบุว่า “ตามที่ข้าพเจ้า นายยศวริศ ชูกล่อม ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่านและครอบครัวของท่าน ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2555 ไปนั้น

ข้าพเจ้าขอกราบเรียนว่า ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนาที่จะคุกคามการทำหน้าที่ สิทธิส่วนบุคคล หรือหวังให้เกิดเหตุร้ายใดๆ ขึ้นแก่ท่านและครอบครัวของท่านแต่ประการใด หากเกิดจากความผิดพลาดพลั้งเผลอและขาดความยั้งคิดพิจารณาของข้าพเจ้าให้ดีก่อนกระทำการดังกล่าว เนื่องมาจากข้าพเจ้าได้รับข้อมูลเอกสารซึ่งได้รับแจกมาในขณะนั้น โดยมิได้มีการตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเสียก่อนขึ้นปราศรัยบนเวทีหน้ารัฐสภา อันเป็นการกระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งต่อมาในเวลาช่วงเย็นของการปราศรัยในวันเดียวกันนั้น ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดและเมื่อพิจารณาไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว เห็นว่าเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจึงได้รีบขึ้นเวทีกล่าวขอโทษ พร้อมทั้งแจ้งกำชับ ห้ามมิให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมหรือผู้ที่ฟังอยู่ในขณะนั้นไปทำการก่อกวน คุกคาม หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ท่านและครอบครัวของท่านในทันที

บัดนี้ ข้าพเจ้าได้รู้สำนึกผิด จึงกราบเรียนเพื่อขออภัยและกราบขอโทษท่านและครอบครัวของท่าน มา ณ โอกาสนี้ โดยข้าพเจ้าขอให้คำมั่นสัญญาว่า ข้าพเจ้าจะไม่ประพฤติปฏิบัติตัวเช่นนี้อีก และจะตั้งมั่นปฏิบัติตนตามภาระหน้าที่อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีต่อไป จึงกราบเรียนมาเพื่อขอท่านได้โปรดเมตตาพิจารณาให้อภัยแก่ข้าพเจ้าด้วย จักเป็นพระคุณอย่างสูง ด้วยความเคารพอย่างสูง ลงชื่อ นายยศวริศ ชูกล่อม”

สำหรับนายยศวริศนั้น ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ถอนประกันตัวในคดีร่วมกันก่อการร้าย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลเห็นว่า ส่อให้เห็นถึงเจตนาที่จะยุยง ปลุกปั่น ให้ผู้ฟังรู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประสงค์จะให้มีการก่อความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือกระทำการอันตรายต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและครอบครัว และถือได้ว่าเป็นการคุกคามกดดันแก่บุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง อีกทั้งเป็นการกดดันการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งการนำข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นมาเปิดเผยโดยไม่มีเหตุจำเลยก็ไม่ใช่วิสัยปกติของบุคคลทั่วไป ยิ่งแสดงออกถึงเจตนาร้าย ที่ต้องการให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และเป็นการไม่นำพาต่อเงื่อนไขที่ศาลมีคำสั่งไว้

แม้ภายหลังจะกล่าวขอโทษตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่อาจทำให้การกระทำที่ได้ทำลงไปแล้วกลับคืนมาได้ แสดงให้เห็นว่าไร้ซึ่งความยับยั้งชั่งใจในการใคร่ครวญว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำก่อนที่จะกระทำการใดๆไป ดังนั้นจึงยังไม่แน่ว่าหากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวอีกต่อไปแล้วจะไปก่อเหตุวุ่นวายประการอื่นใดอีก อีกทั้งคำปราศรัยดังกล่าวยังถือได้ว่าเป็นการกล่าวถ้อยคำไปยังสาธารณชนที่เป็นการละเมิดหรือกระทบสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลใดโดยตรง นอกจากนี้ยังถือได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุปลุกปั่น ปลุกระดมเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมายแผ่นดิน จึงถือได้ว่าเป็นการผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ และยังถือได้ว่าอาจก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น จึงมีเหตุสมควรที่จะมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่ม นปช.ได้มีความพยายามที่จะประกันตัวนายยศวริศมาโดยตลอด ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความใช้เงินสด 6 แสนบาทยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย มาเบิกความรับรองความประพฤติให้จำเลย ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ศาลอาญาได้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนายยศวริศ เนื่องจากยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ศาลเชื่อได้ว่าจำเลยรู้สำนึก มีความรู้สึกยับยั้งชั่งใจในการคิดใคร่ควรว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ มีความรู้สึกเข็ดหลาบและหลาบจำต่อการกระทำความผิดของตน ซึ่งนายวิญญัติกล่าวว่า จะทำหนังสือแสดงความสำนึกผิดส่งถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด เพื่อแสดงให้ศาลอาญาให้เห็นว่าจำเลยได้รู้สึกสำนึกผิดและได้มีการปฏิบัติอย่างชัดเจนตามคำสั่ง ขณะที่การพิจารณายื่นขอประกันตัวใหม่น่าจะไม่เกินเดือน ต.ค.นี้

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เคยใช้วิธีลงข้อความหน้าในของหนังสือพิมพ์มติชน และเผยแพร่คลิปขอโทษนายจรูญ อินทรจาร, นายเฉลิมพล เอกอุรุ และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่กล่าวหาว่าร่วมโกงข้อสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2552 ซึ่งนายพสิษฐ์เป็นจำเลยร่วมกับบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ก่อนที่ตุลาการทั้ง 3 คนให้นายจรูญพงษ์ อินทรจาร ผู้รับมอบอำนาจกระทำการแทนที่ศาลอาญา ไปดำเนินการถอนฟ้องจำเลยทั้งสองดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นจำเลยอีกคนหนึ่ง เคยใช้วิธีเดียวกันนี้ และตุลาการทั้ง 3 คนได้ถอนฟ้องในที่สุด