“เฉลิม” ขึงขังฟันแน่คนทุจริตงบเยียวยาฟื้นฟูน้ำท่วม หงุดหงิดเจอสื่อซักหากพบเป็นคนใกล้ชิด “นายกฯ ปู” จะจัดการหรือไม่ อ้างยังไม่มีหลักฐานอย่าพูดจะเกิดความเสียหาย ส่วนข้อมูลเลขาฯ ป.ป.ท.ที่ให้มาก็ยังไม่ชัดใครทำผิด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยา ฟื้นฟูและป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าพบเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อยื่นข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตงบประมาณเยียวยา ฟื้นฟู และบรรเทาสาธารณภัย ว่า เลขาธิการ ป.ป.ท.ส่งข้อมูลหลักฐานมาให้แค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ครบและไม่ชัดเจน รวมถึงยังไม่ถึงขั้นที่มีการระบุชื่อผู้กระทำผิด บอกเพียงชื่อโครงการ โดยไม่ระบุว่ามีกี่โครงการและพื้นที่ใดเพราะยังหาเอกสารกำหนดคุณสมบัติโครงการ (ทีโออาร์) ไม่เจอ มีแต่ส่วนหนึ่งมีผู้ได้ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 แล้วไปทึกทักกัน
ทั้งนี้ ตนให้ พ.ต.อ.ดุษฎี ประสานกับ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา สบ 10 ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ และ พ.ต.อ.ดุษฎีจะส่งเอกสารมาให้ตนเพิ่มเติม ซึ่งมีทีโออาร์ของโครงการที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่างานนี้ไม่มีมวยล้ม ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกจับกุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าคนผิดเป็นคนใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องถูกจัดการด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวสวนทันทีว่า อย่าไปพูดอย่างนั้น ยังไม่มีหลักฐานเดี๋ยวจะเกิดความเสียหาย ทั้งนี้อย่าไปคาดการณ์ เพราะการทำสำนวนการสอบสวนต้องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ถ้าไปคิดหรือนึกโดยไม่มีหลักฐานก็จะเกิดความเสียหาย
ต่อข้อถามว่ากำหนดกรอบเวลาให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ไปสอบสวนกี่วัน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การจับกุมคนทำผิดให้กรอบเวลาไม่ได้ เพราะต้องเป็นตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน การจะเอาตัวคนเข้าคุกมันไม่ง่ายอย่างที่คิด ขอย้ำว่า ใครทำผิด จับหมด และเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไฟไหม้ฟาง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยา ฟื้นฟูและป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าพบเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อยื่นข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตงบประมาณเยียวยา ฟื้นฟู และบรรเทาสาธารณภัย ว่า เลขาธิการ ป.ป.ท.ส่งข้อมูลหลักฐานมาให้แค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งยังไม่ครบและไม่ชัดเจน รวมถึงยังไม่ถึงขั้นที่มีการระบุชื่อผู้กระทำผิด บอกเพียงชื่อโครงการ โดยไม่ระบุว่ามีกี่โครงการและพื้นที่ใดเพราะยังหาเอกสารกำหนดคุณสมบัติโครงการ (ทีโออาร์) ไม่เจอ มีแต่ส่วนหนึ่งมีผู้ได้ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 แล้วไปทึกทักกัน
ทั้งนี้ ตนให้ พ.ต.อ.ดุษฎี ประสานกับ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา สบ 10 ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ และ พ.ต.อ.ดุษฎีจะส่งเอกสารมาให้ตนเพิ่มเติม ซึ่งมีทีโออาร์ของโครงการที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่างานนี้ไม่มีมวยล้ม ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกจับกุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าคนผิดเป็นคนใกล้ชิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องถูกจัดการด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวสวนทันทีว่า อย่าไปพูดอย่างนั้น ยังไม่มีหลักฐานเดี๋ยวจะเกิดความเสียหาย ทั้งนี้อย่าไปคาดการณ์ เพราะการทำสำนวนการสอบสวนต้องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ถ้าไปคิดหรือนึกโดยไม่มีหลักฐานก็จะเกิดความเสียหาย
ต่อข้อถามว่ากำหนดกรอบเวลาให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ไปสอบสวนกี่วัน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การจับกุมคนทำผิดให้กรอบเวลาไม่ได้ เพราะต้องเป็นตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน การจะเอาตัวคนเข้าคุกมันไม่ง่ายอย่างที่คิด ขอย้ำว่า ใครทำผิด จับหมด และเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไฟไหม้ฟาง
