xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” ยันไม่เคยมีใครมาล็อบบี้ให้โหวตถอดถอน “เทพเทือก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำนูณ สิทธิสนาม (แฟ้มภาพ)
“ส.ว.คำนูณ” ยันไม่เคยถูกล็อบบี้ให้ถอดถอน “เทพเทือก” ระบุนักการเมืองส่วนใหญ่รู้จักกันหมด เชื่อ ส.ว.มีวิจารณญาณ ทำตามข้อบังคับการประชุม ขณะเดียวกันเรียกร้องรัฐบาลชัดเจนการใช้เงินจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เหตุใกล้หมดเวลา แต่ใช้ไปเพียง 900 ล้านบาท

วันนี้ (10 ก.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธปัตย์ ระบุว่ามีสมาชิกบ้านเลขาที่ 111 เดินสายล็อบบี้ ส.ว.บางกลุ่มให้ถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ออกจากตำแหน่งว่า จะมีหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ส่วนตัวไม่มีใครมาล็อบบี้ ซึ่งข้อบังคับการการประชุมวุฒิสภาว่าด้วยกระบวนการถอดถอน เมื่อกระบวนการถอดถอนเข้าสู่เริ่มต้น ส.ว.ทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยการให้ความเห็นต่อสาธารณะหรือการพูดคุยกัน ก็ต้องระมัดระวัง ซึ่งตนเชื่อว่า ส.ว.ทุกคนต้องตระหนักและมีวิจารณญาณตัดสินใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าว และเชื่อว่าในที่สุดเมื่อผลการลงมติเป็นอย่างไรก็จะมีคำตอบอยู่ในตัว

“สังคมไทยไม่เหมือนสังคมตะวันตก ก็รู้จักมักคุ้นกันในแวดวงการเมือง ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าเมื่อมีกฎข้อบังคับก็ต้องระมัดระวัง เชื่อว่าไม่แต่เพียงบ้านเลขที่ 111 ที่อาจจะรู้จัก ส.ว. แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็รู้จัก ส.ว. ทุกฝ่ายต้องตระหนักเรื่องในการพูดคุยกับ ส.ว. แม้จะเป็นการทักทายปกติ ถ้าเผลอไปพูดอะไรอาจจะขัดข้อบังคับได้”

นายคำนูณยังกล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลว่า ปัญหาใหญ่ของประเทศนี้ใกล้จะมีการเมือง 2 พรรคเหมือนต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยมีการวิพากษ์วิจารณ์ โจมตีรายวันเกือบทุกประเด็นทำให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยเฉพาะเรื่องน้ำ หากฟังกรุงเทพมหานครก็จะได้ความอีกอย่างหนึ่ง หรือฟังรัฐบาลก็ได้ความอีกอย่างหนึ่ง ถือเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย ที่ขณะนี้ก็ใกล้การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้ง 2 พรรคก็ยังไม่ได้ตัวว่าที่ผู้สมัครที่แท้จริง หากมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเด็นน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ที่ประชาชนเดือดร้อนก็จะถูกนำมาเป็นประเด็นการเมืองตลอดเวลา

ทั้งนี้ ตนมีความรู้สึกเป็นห่วงเรื่องพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อการวางระบบป้องกันอุกทกภัยและสร้างอนาคตประเทศนั้น ซึ่งเมื่อ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวออกมาแล้ว กำหนดให้กู้เงินได้ 3.5 แสนล้านบาทและให้กู้ได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2556 แต่ขณะนี้เดือน ก.ย.แล้ว แต่รัฐบาลได้ใช้เงินกูเพียง 900 ล้านบาทยังเหลือเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งโครงการที่จัดทำตามเงินกู้ดังกล่าวนั้น ทีโออาร์รวมทั้งการประมูลก็ยังไม่เกิดขึ้น และกว่าจะได้ตัวบริษัทผู้รับเหมาและรายละเอียดทั้งหมดนั้น ตนเชื่อว่าจะไม่ทันวันที่ 30 มิ.ย. 2556 อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยเฉพาะนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะทำอย่างไรกับ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว หรือว่ารัฐบาลจะออกเป็นพระราชบัญญัติต่ออายุของพระราชกำหนด ขยายระยะเวลาการกู้เงินต่อไปอีกกี่ปี รัฐบาลก็ต้องมีความชัดเจน หรือว่าหากรัฐบาลไม่ต่ออายุก็จะกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทไว้นั้น ก็จะต้องมีต้นทุนดอกเบี้ย ซึ่งไม่มีโครงการใดในโลกที่จะเสกขึ้นมาแล้วใช้เงินได้หมดทันที เพราะต้องทยอยใช้ไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องนี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น