xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ถกกระชับความสัมพันธ์ปาปัวฯ-หนุนเทคโนโลยีเสริมมั่นคงอาหาร พร้อมช่วยภัยพิบัติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
“ยิ่งลักษณ์” คุยนายกฯ ปาปัวฯ ชี้เป็นคู่ค้าสำคัญทั้งเกษตร ประมง และยานยนต์ เล็งสานต่อการลงทุน พร้อมเสริมศักยภาพทรัพยากรบุคคล และพัฒนาแหล่งพลังงานธรรมชาติ-ชมรัสเซีย จัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกห่วงใยอาหารโลก แนะปชช.ควรเข้าถึงอาหารในราคาที่เป็นธรรม หนุนการเชื่อมโยง APIP-AMIS ผลักดันเทคโนโลยีผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เผยไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารโลก พร้อมให้ความช่วยเหลือ แถมดันเรื่องพัฒนาบทบาทสตรี


วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครวลาดิวอสต็อก สหพันธรัฐรัสเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนายปีเตอร์ โอนีล นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ก่อนเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปก ในวันที่ 2 ดังนี้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ต่างเห็นพ้องที่จะพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในสาขาที่ไทยและปาปัวนิวกินีสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ โดยปัจจุบันปาปัวนิวกินีถือเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยในกลุ่มประเทศเกาะแปซิฟิก และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามูลค่าการค้ามีการเติบโตถึงร้อยละ 15 ซึ่งไทยเป็นคู่ค้าสำคัญของปาปัวฯด้านสินค้าเกษตร ประมง และผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ทั้งนี้ ไทยและปาปัวฯ กำลังศึกษาการจัดทำความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน (Investment and Promotion and Protection Agreement) ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน

นอกจากนี้ ไทยและปาปัวฯจะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมทั้งไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในสาขาเกษตรกรรม สาธารณสุข ความมั่นคงด้านอาหารและการประมง ยินดีให้ความร่วมมือในการออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของปาปัวฯ ในด้านดังกล่าว รวมทั้ง การพัฒนาพลังงาน ที่ปาปัวฯ มีแหล่งพลังงานธรรมชาติ ที่ไทยจะช่วยพัฒนาได้

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (Retreat 2) ภายใต้หัวข้อ “Ensuring Food security and Encouraging Innovative Growth” ซึ่งเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารที่รัสเซียกำหนดให้เป็นประเด็นหลักของการประชุมในครั้งนี้ โดยเฉพาะด้านการเพิ่มการลงทุนในภาคการเกษตร การพัฒนาวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพด้านการเกษตรร่วมกัน และการพัฒนาและสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมการเกษตร ทั้งนี้ ผู้นำจากเขตเศรษฐกิจต่างๆ ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและแสดงจุดยืนเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว

ในโอกาสนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ชื่นชมสหพันธรัฐรัสเซียที่ได้ให้ความสำคัญต่อประเด็น “ความมั่นคงทางอาหาร” ให้เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับการประชุมเอเปคครั้งนี้ พร้อมกับได้เสนอการส่งเสริมบทบาทสตรีเป็นส่วนหนึ่งในนวัตกรรมเพื่อการเติบโต (innovative growth) โดยไทยได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อให้สตรีมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ สรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. การส่งเสริมการค้าและตลาดอาหาร ต้องส่งเสริมการค้าที่เปิดกว้างและเป็นธรรมแก่ทุกคน มีการดำเนินการทางการตลาดที่มีทั้งประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ไม่มีอุปสรรคที่ไม่เป็นธรรมทางภาษี ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพได้ในราคาที่เป็นธรรม รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลด้านการผลิต การบริโภค และแหล่งเก็บสำรองอาหารที่เชื่อถือได้และทันต่อสถานะปัจจุบัน เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนในด้านราคาอาหาร ทั้งนี้ ไทยสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงกันระหว่าง Asia-Pacific Food Security Information Platform (APIP) และระบบ Agricultural Market Information System (AMIS)

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า และ 2. นวัตกรรมและเทคโนโยลีด้านความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากปัญหาความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากในการลดปัญหา เอเปกจึงควรผลักดันให้เกิดการร่วมมือด้านการค้นคว้าและการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายอย่างยิ่งสำหรับความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับประเทศกลุ่มเอเปคและโลก ซึ่งแต่ละปีโลกต้องสูญเสียอาหารที่ผลิตได้ไปอย่างน้อย 1 ใน 3 ส่วน ซึ่งนวัตกรรมสามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว (post-harvest management) และการขนส่งลอจิสติกส์ และประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในส่วนที่หลากหลายที่กี่ยวข้องกัน ในฐานะเป็นสมาชิกเอเปก ไทยพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมกับเอเปค

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับบทบาทการเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก (world food production house) รวมทั้งบทบาทที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาหารโลก และไทยพร้อมที่จะช่วยเหลือเขตเศรษฐกิจต่างๆ ที่ประสบภัยพิบัติ ทั้งในเอเชีย-แปซิฟิก และภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความพยายามในการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารในทุกด้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น