นายกรัฐมนตรีหนุนต่อยอดสินค้าโอทอป พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์พื้นบ้านรับประชาคมอาเซียน พร้อมบูรณาการ “มท.-ก.อุตฯ-ไอซีที-คลัง” หวังเพิ่มรายได้เข้าประเทศ 10 เปอร์เซ็นต์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการยกระดับผู้ประกอบการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการ ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ว่าในส่วนของสินค้าโอทอปวันนี้ถ้าเราไปดูในรายละเอียด สินค้าโอทอปมีความพร้อม หลายบริษัทมีศักยภาพในการส่งออก รวมถึงการขยายกำลังในการผลิตในประเทศด้วย ซึ่งสิ่งที่โอทอปต้องการในการต่อยอดมีหลายประการ ประการแรก การร่วมกันในการทำวิจัยเพื่อค้นหาการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลได้บูรณาการในส่วนของงานวิจัย เพื่อนำเอาวัตถุดิบต่างๆ ในการคิดค้นรูปแบบให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะทำให้สินค้าโอทอปขายได้ในราคาที่มีคุณภาพ ให้สมกับฝีมือของการผลิต
สุดท้ายที่เรามองว่าสำคัญ คือ เรื่องการตลาด ที่จะเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่าย ซึ่งช่องทางนี้รัฐบาลได้บูรณาการกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ และกระทรวงการคลัง ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางในการตลาดและแหล่งเงินทุนให้กับสินค้าโอท็อป ทั้งในเรื่องของหน้าร้าน เว็บไซต์ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศได้มีการประสานกับท่านทูตให้ช่วยโปรโมตสินค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของไทยให้เป็นที่รับทราบและรับรู้ รวมถึงการก้าวสู่ในเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งเป้าในการเพิ่มรายได้สินค้าโอทอปเท่าไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในส่วนนี้เราอยากจะมองในเรื่องของการเพิ่มคุณภาพและความแข็งแรงก่อน ส่วนเรื่องเป้าหมายจะต้องไปดูในรายละเอียด แต่อย่างน้อยเชื่อว่าจะต้องมากกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมามีจำนวนเป้าหมายที่ลดลง และวันนี้เชื่อว่าเป้าหมายที่จะต้องเพิ่มอย่างน้อย 5-10 เปอร์เซ็นต์ แต่คงต้องให้เวลาในการทำงานก่อน