โฆษก ปชป.เอาคืนโฆษก พท. ซัดชอบอ้างโพลสำรวจพวกเดียวกัน ปิดกั้นคนเห็นต่าง จี้แท็บเล็ตไม่มีตัดไฟในตัว หวั่นเด็กอันตราย แนะถามคนใช้ 30 บาทรักษาจริง ดักปราบยาต้องชม ตร.ไม่ใช่แค่ รบ. สวนให้ “ยิ่งลักษณ์” อยู่ในตำแหน่ง ปชช.ยิ่งตาสว่าง ยกเลือกตั้งดอนเมืองเป็นตัวอย่าง
วันนี้ (3 ก.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวตอบโต้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยมักจะมีนิสัยนำผลโพลที่สำรวจโดยพวกเดียวกันเองโดยไม่น่าเชื่อถือได้มาแอบอ้าง ตนสมเพชเวทนาการทำงานของโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะประเด็นที่นายพร้อมพงศ์บอกว่าอยากจะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และตนทำงานอยู่นานๆ นั้น ก็อยากจะบอกว่า ลึกๆ ตนก็อยากจะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายพร้อมพงศ์อยู่เป็นโฆษกและรัฐมนตรีนานๆ เพราะว่า 1 ปีที่ผ่านมาการทำงานทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งโดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงๆ เช่น จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ก.ที่เขตดอนเมืองเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้รับชัยชนะ
“ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวดอนเมืองที่ให้โอกาสผู้แทนของเรา หากจะบอกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมาทำให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลระทบรู้เช่นเห็นชาติผู้แทนของพรรคเพื่อไทยคงไม่ผิด เพราะฉะนั้น แม้ผมจะอยากให้นายพร้อมพงศ์และน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในตำแหน่งไปนานแค่ไหน พวกเราก็คงเห็นชาติวิบัติย่อยยับคามือพวกท่านไม่ได้” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า เช่นเดียวกันการที่นายพร้อมพงศ์หยิบยกผลโพลของตัวเองมาอ้างว่าประชาชนพอใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยอันดับ 1 คือเรื่องการปราบปรามยาเสพติดนั้น ตนก็อยากจะบอกว่าผลงานการปราบปรามยาเสพติดนั้นไม่ได้แตกต่างทั้งในแง่ปริมาณของยาเสพติดที่จับกุมได้ รวมถึงจำนวนคดีเฉลี่ยรายเดือน แต่ก็ต้องชมเจ้าหน้าที่ได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว
โฆษกประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ที่ผลโพลบอกว่าประชาชนมีความพอใจในเรื่องกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนั้น คิดว่าอาจจะมีการสำรวจกันแค่กลุ่มคนเสื้อแดงกันเองเพราะว่าอย่างที่ทราบดีมีขั้นตอนการคัดเลือกบุคลากรที่จะมาดูแลเงินกองทุนนั้นจะต้องเป็นเครือข่ายคนเสื้อแดงและกีดกันคนที่มีความเห็นต่าง นอกจากนี้ กรณีที่นายพร้อมพงศ์ออกมาระบุว่าประชาชนพอใจในเรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น อยากให้นายพร้อมพงศ์ไปถามผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวว่าเขาพอใจเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่กับการที่จะต้องจ่ายเงิน 30 บาท จากที่ไม่ต้องจ่ายเงินเลยในรัฐบาลชุดที่แล้ว
“อย่างไรก็ตาม เราก็เห็นว่าโครงการแท็บเล็ตดำเนินการได้ล่าช้ากว่าที่รัฐบาลหาเสียงไว้ นอกจากนั้นความพร้อมเรื่องการรองรับทั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือไฟฟ้าในพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย ยังไม่มีความพร้อม รวมถึงขณะนี้ที่มีการเปิดเผยว่าในตัวเครื่องแท็บเล็ตนั้นไม่มีกระบวนการตัดไฟในตัวแท็บเล็ตเอง ซึ่งเสี่ยงต่อเหตุไฟฟ้าช็อตกับเด็กนักเรียน โดยหากมีศพแรกของเด็กคนนั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ นายพร้อมพงศ์ต้องรับผิดชอบ” นายชวนนท์กล่าว