ส.ส.ปชป.อดีต รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กชี้รัฐบาลเก็บ 30 บาทรักษาทุกโรคได้ไม่คุ้มเสีย เพราะก้าวมาถึงยุครักษาฟรีหมดแล้ว สร้างความยุ่งยาก จัดเก็บได้แค่ปีละพันล้าน เทียบไม่ได้กับงบรัฐแสนล้าน แนะเอาไปพัฒนาบริการเป็นประโยชน์ ดีกว่าดันทุรังแก้บนหวังขอให้ได้ใช้คำว่า “30 บาท” เท่านั้น
วันนี้ (2 ก.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน และอดีต รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ Aoodda” ระบุว่า ตามที่รัฐบาลแถลงว่าจะเริ่มใช้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ตั้งแต่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป แต่ไม่บังคับ และจะใช้กับกรณีรับยาเท่านั้น ตนเห็นว่าเป็นการย้อนยุค เพราะปัจจุบันได้ก้าวมาถึงยุครักษาฟรีหมดแล้ว
ทั้งนี้ การเก็บ 30 บาทตามสมัครใจ มีแต่จะสร้างความยุ่งยากให้ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการเพราะต้องมานั่งถามเสียความรู้สึก รับเงิน บันทึกรายได้ ออกใบเสร็จและเพิ่มขั้นตอน สู้เอาเวลาไปพัฒนาการให้บริการจะเป็นประโยชน์กว่า ที่สำคัญกระทรวงสาธารณสุขเคยประเมินแล้วพบว่าแม้บังคับให้ทุกคนต้องจ่าย 30 บาทโดยไม่มีข้อแม้ เงินที่เก็บได้แต่ละปีก็จะอยู่ที่ประมาณแค่ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับงบรักษาฟรีที่รัฐจัดให้อยู่แล้วปีละกว่า 100,000 ล้านบาทแล้วถือว่าน้อยมาก คิดเป็นไม่ถึง 1% ยิ่งให้จ่ายตามสมัครใจไม่กล้าบังคับเพราะกลัวถูกด่า ยิ่งจะได้น้อยกว่านี้มาก เมื่อเทียบกับความยุ่งยากทางปฏิบัติที่ตามมาแล้วบอกตรงๆ ว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย”
นอกจากนี้ โรงพยาบาลหลายแห่งก็ประกาศแล้ว หากไม่เป็นการบังคับเขาก็จะไม่ร่วมโครงการเพราะจะทำให้เขายุ่งโดยใช่เหตุ ตนจึงเห็นว่ารัฐบาลควรเอาเวลาไปมุ่งเน้นการให้บริการที่ดีและการขยายสิทธิประโยชน์ให้กับผู้รับบริการ มากกว่ามาดันทุรังทางการเมืองคิดเก็บ 30 บาท แก้บนแบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะหาเสียงไว้ และเพียงเพื่อขอให้ได้ใช้คำว่า 30 บาท แต่สุดท้ายได้ไม่คุ้มเสีย
