สมช.ชง ครม.ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใต้ จ่อถกมาเลย์จับโจรข้ามแดน "วิเชียร" ไม่พูดส่อถูกเด้ง

รองนายกฯ เผยที่ประชุมสภาความมั่นคงจ่อชง ครม.ขอต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใต้อีก 3 เดือน ยันมาเลย์ปัดจุ้นป่วน เล็งถกจับโจรข้ามแดน ด้าน เลขาฯ สมช.อ้างธงเพื่อนบ้านโผล่เหตุทางการแจกฟรีวันชาติจึงมีหลุดมาบ้าง เชื่อไม่มีหลิ่วตา แต่รับคนไทยเข้าไปเยอะเพราะรายได้ดี อ้างเหตุเกิดกลางคืนดูแลยาก ยังเน้นขอประชาชนร่วมมือแจ้งข่าว ป้อง จนท.สุดวิสัยไม่หละหลวม บอก “ปู” ไม่จำเป็นต้องมา คาด ศปก.จชต.ลงนามตั้งได้ใน 2 วันนี้ ไม่มีชื่อ “ดาว์พงษ์” แน่ ไม่พูดถูกเด้งนั่งปลัด คค.

วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันนี้ ได้มีการพูดคุยถึงการต่อพระราชกำหนดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. - 19 ธ.ค.โดยจะมีการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 11 ก.ย.นี้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ทางประเทศมาเลเซียได้มีการชี้แจงแล้วว่า ไม่มีการแทรกแซง เขาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ และไม่รู้เรื่องนี้ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการพูดคุยกันเพื่อขอให้ช่วยในเรื่องของกลุ่มโจรที่ข้ามไปฝั่งมาเลเซีย

ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ทางรัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียได้ออกมาแถลงแล้วว่ามาเลเซียไม่ได้เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการที่กลุ่มโจรผู้ก่อการร้ายนำธงชาติมาติดในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมามีการร่วมมือในการแก้ไขปัญหาภาคใต้เป็นอย่างดี ซึ่งวันที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นบังเอิญเป็นวันสถาปนาเบอร์ซาตูตรงกับวันชาติมาเลเซีย ซึ่งเขาจะแจกธงชาติให้ประชาชนไปติดตามบ้านต่างๆ ดังนั้นจึงง่ายที่ธงชาติจะหลุดเข้ามาในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางมาเลเซียจะช่วยอะไรประเทศไทยได้บ้าง เลขาฯ สมช.กล่าวว่า คงเป็นการช่วยเหลือเรื่องของการพัฒนาทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะบริเวณด่านชายแดน ส่วนเรื่องของผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการเสร็จแล้วหนีไปมาเลเซียนั้น ที่ผ่านมาก็มีการประสานกันตลอด และยอมรับว่าที่ผ่านมายังไม่สามารถดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดที่หนีเข้าไปในมาเลเซียได้ จึงเป็นที่มาของคดีเรื่องความมั่นคง ซึ่งเป็นคดีที่สอบสวนยาก จึงจำเป็นต้องมีพระราชกำหนดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีกฎหมายพิเศษที่จะเข้ามาช่วยในการสืบสวน และในที่ประชุมวันนี้ก็มีความเห็นที่จะให้ขยายประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไป ยกเว้นอำเภอแม่ลาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาดูเหมือนมาเลเซียไม่มีความจริงใจในการช่วยเหลือไทย เหมือนพยายามหลิ่วตาช่วยเหลือกลุ่มโจรตลอด พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คงไม่ใช่ แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าคนไทยเข้าไปทำงานที่มาเลเซียเยอะ เนื่องจากมีเศรษฐกิจที่ดีกว่าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อถามว่า ทางมาเลเซียรู้หรือไม่ว่าถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายในประเทศไทย เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เขาทราบ ถึงได้รีบออกมาแถลงข่าว เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทางมาเลเซียจะช่วยเหลือเราโดยการยกเลิกคนสองสัญชาติ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ก็คุยกันอยู่ ซึ่งการยกเลิกสองสัญชาติในทางปฏิบัติก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเข้าไปประกอบอาชีพในมาเลเซียได้มากขึ้น

เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่มีความผิดพลาดอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า เราต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการข่าวแจ้งมาตั้งแต่เดือนเมษายนว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งตรงนี้เห็นชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดง่ายเกินไป ทั้งการวางระเบิดทั้งการปักธง และบังเอิญเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตอนกลางคืน ก็อาจจะยากสำหรับเจ้าหน้าที่ในการดูแลอย่างทั่วถึง

เมื่อถามว่า ด้านการข่าวจะมีการปรับปรุงอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะการข่าวผิดพลาด เลขาฯ สมช.กล่าวว่า หลักอย่างหนึ่งคือต้องสร้างความเข้าใจ เอาชนะความคิดเอาประชาชนมาเป็นฝ่ายเราให้มากขึ้น เพื่อให้ความร่วมมือแจ้งข่าวหรือให้เบาะแสกับทางการ ตรงนี้ถือเป็นส่วนสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเสนอให้ยกเลิกการใช้รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ทั้งหมด เลขาฯ สมช. กล่าวว่า สิ่งใดที่จะไปกระทบวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ก็ต้องถามประชาชนก่อน แต่กรณีนี้คงไม่จำเป็น เมื่อถามว่าจะมีการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ เพราะการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างหละหลวมจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ความจริงแล้วการประกาศเคอร์ฟิวมีทั้งข้อดีข้อเสีย และเท่าที่ฟังคนในพื้นที่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้ประกาศเคอร์ฟิว เพราะเขาไม่สะดวกในการดำเนินชีวิต

“เคอร์ฟิวในชั้นนี้ ผมเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องประกาศ ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหละหลวมไหม บางทีมันก็เป็นเหตุสุดวิสัย แต่เจ้าหน้าที่เขาก็ทำเต็มที่” เลขาฯ สมช.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นอย่างไรบ้าง เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ได้ไปชี้แจงถึงสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำ โดยเฉพาะความต้องการที่จะเอาชนะทางความคิด และประชาชนทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้ ให้อภัยซึ่งกันและกัน และเยียวยาโดยเฉพาะการไม่สร้างเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ ตรงไหนที่ยังไม่เป็นเอกภาพก็ทำให้เป็นเอกภาพ อย่างไรก็ตามมีเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยกล้องซีซีทีวี การบูรณาการทหารตำรวจเป็นระบบมากขึ้น หลายชุมชนมีความเข้มแข็งมากขึ้น ดังนั้นยืนยันว่าขณะนี้ภาคประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น และไม่ใช่เพียงในเซฟตี้โซนเท่านั้น

เมื่อถามว่า ในพื้นที่ดูเหมือนอยากให้นายกฯลงไปในพื้นที่ด้วย พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า นายกฯเป็นผู้ที่ดูด้านนโยบาย ซึ่งในทางปฏิบัติมีแม่ทัพภาค 4 ส่วนหน้า และผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่จำเป็นที่นายกฯจะลงไปในพื้นที่ เพราะนายกฯเองก็มีภารกิจเยอะ

ผู้สื่อข่าวถามถึงโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งมาแล้ว และทาง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามภายใน 1-2 วันนี้ โดยไม่จำเป็นต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีก ทั้งนี้ ยืนยันว่า ศปก.จชต.จะไม่มีความซ้ำซ้อน หรือรวบอำนาจตามที่มีการวิจารณ์ แต่จะเป็นลักษณะของการประสานงานหรือการประชาสัมพันธ์ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเท่านั้น โดยจะมีเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าส่วนในการประชาสัมพันธ์ และมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นเลขาฯ ศปก.จชต.ส่วนผู้ช่วย ศปก.จชต.จะมาจากรองเลขาธิการ ศอ.บต. และรองเลขาฯ กอ.รมน.ในด้านการข่าวจะมีผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง ร่วมบูรณาการด้านการข่าว ทั้งนี้ในเรื่องของการอำนวยการและการสั่งการนั้นจะทำในสภาวะวิกฤตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในคณะทำงาน ศปก.จชต.จะไม่มีชื่อ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก เนื่องจากท่านมีภารกิจมาก ซึ่งขณะนี้การประชุมได้เริ่มบ้างแล้ว แม้จะไม่มีการลงนามจากนายกฯก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยังไม่ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะถูกแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม โดยระบุเพียงว่าไม่ทราบ ไม่ขอออกความเห็นเรื่องนี้