“ยิ่งลักษณ์” เปิดงาน “กระบวนการยุติธรรมเพื่อคุ้มครองผู้หญิงและเด็กจากการถูกกระทำรุนแรงในครอบครัว” แนะควรปรับทัศนคติปัญหาความรุนแรงต่อ “เด็ก-สตรี” เป็นแค่เรื่องในครอบครัว ควรแก้ไขให้มีความเสมอภาค
ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ วันนี้ (3 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนากระบวนการยุติธรรมเพื่อคุ้มครองผู้หญิงและเด็กจากการถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นแนวพระราชดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาสาธารณะที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและสังคมได้ให้ความช่วยเหลือเข้ามาดูแล และแก้ปัญหา โดยเฉพาะการกระทำที่ใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีที่เป็นปัญหาต่อสถาบันครอบครัว หากปล่อยไปก็ทำให้สถาบันครอบครัวและความมั่นคงก็จะถูกทำลาย ปัญหาเหล่านี้มีมากขึ้น ประเทศไทยมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ที่จะคุ้มครอง ช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ แก้ไขฟื้นฟูปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้เกิดการทำซ้ำอีก แต่ผ่านมา 5 ปีแล้วพบว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำฯ ยังขาดการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม และมีทัศนคติที่เข้าใจปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาในครอบครัว จึงควรมีการปรับทัศนคติเหล่านี้ เพื่อให้เด็กและสตรีได้รับการดูแลอย่างเสมอภาค
ทั้งนี้ จากพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิง จึงทรงรับเป็นองค์ทูตสันถวไมตรีขององค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นวีเมน และทรงมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรมรณรงค์ และเผยแพร่ความรู้ทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งในส่วนของรัฐบาล เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้ดำเนินการแล้ว และพร้อมบูรณาการกับทุกหน่วยงาน โดยเชื่อว่าจากความร่วมมือของทุกฝ่ายในสังคมจะทำให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นรูปธรรม สร้างความเสมอภาคและเท่าเทียม และทำให้สังคมไทยปราศจากการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี