“อภิสิทธิ์” เตือน “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ประเมินสถานการณ์ใต้ให้ชัด อย่าบอกไม่เกี่ยวขบวนการแบ่งแยกดินแดนเหมือนที่เคยพูดไว้ พร้อมแนะฝ่ายนโยบายลงพื้นที่ต่อเนื่อง และควรมอบหมายให้รัฐมนตรีคนเดียวดำเนินการกั้นความสับสน ยันฝ่ายค้านยังไม่เคยได้รับการประสานจากรัฐบาลให้ข้อมูล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อไปเป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระประธานที่วัดคลองทรายใน อ.เมือง จ.ยะลา ว่าหากมีเวลาตนก็จะเดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุระเบิด พร้อมกับพูดคุยกับเจ้าหน้าที่
ผู้นำฝ่ายค้านฯ มองว่าเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดในจังหวัดยะลา และนราธิวาส เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุทำงานค่อนข้างเป็นระบบทั้งจุดวางธง และการวางระเบิด ซึ่งเป็นความพยายามในการแสดงพลัง รัฐบาลควรจะประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน ดังนั้นจึงต้องระวังเพราะหากประเมินผิดพลาดยิ่งทำให้เกิดปัญหาตามมา
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การลงพื้นที่เกิดเหตุของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าให้ดีที่สุดฝ่ายนโยบาย ควรจะลงพื้นที่ติดตามงานอย่างต่อเนื่องและควรมีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน รวมถึงนายกรัฐมนตรี ควรจะมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ 3 คน ตามโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการ แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.)เพราะทำให้เกิดความสับสน และจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นการทำงานที่เป็นรูปธรรม และเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะเมื่อฝ่ายค้านเสนอความคิดเห็นกลับถูกมองว่าเป็นการตอบโต้ทางการเมือง
“จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ประสานอย่างเป็นทางการเพื่อให้ ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูล มีเพียงการพูดผ่านสื่อเท่านั้น และหากมีประชุมจริงอยากให้นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมด้วย เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมายถึง 2 ฉบับ ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นญัตติเรื่องปัญหาราคายางพาราแล้วจะเสนอญัตติการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พิจารณาต่อในสภาผู้แทนราษฎร”