“นิคม” ขึ้นแท่นประธานวุฒิสภาครั้งแรก เพิ่มประชุมบ่ายวันอังคาร เคลียร์งานค้างในสาระบบ แจงขั้นตอนถอด “สุเทพ” ก่อนให้แจงในที่ประชุม เจ้าตัวขอยื่นหลักฐานคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณี “ประชา” แต่งตั้ง ส.ส.เพื่อไทยช่วยงาน ศปภ. ขณะที่ประชุมมีมติ 98 ต่อ 1 เห็นชอบให้เพิ่มได้ นัดแถลงเปิดคดี 7 ก.ย.นี้
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา โดยมีนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานที่ประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อพิจารณากระบวนการถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 273 ได้ให้เลขาธิการวุฒิสภาอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นประธานวุฒิสภา จากนั้นได้เชิญนายนิคมขึ้นทำหน้าที่ประธาน โดยนายนิคมแจ้งว่า ได้พิจารณาแล้วเห็นควรให้เพิ่มวันประชุมวุฒิสภาจากเดิมทุกวันจันทร์ เพิ่มวันอังคารอีกวันช่วงบ่ายหลังการประชุม ครม.เสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากสารบบงานวุฒิสภามีเรื่องค้างรอการบรรจุจำนวนมาก การพิจารณาเพียงสัปดาห์ละ 1 วันคงไม่เพียงพอ โดย ส.ว.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน พร้อมเสนอให้กำหนดวาระพิจารณากระทู้ถามให้มีความชัดเจน และขอให้ประสานกับรัฐบาลเพื่อส่งรัฐมนตรีมาชี้แจงด้วย รวมถึงขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามการตอบกระทู้ของรัฐบาล และติดตามการนำผลการศึกษาของกรรมาธิการสามัญของวุฒิสภาไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
จากนั้นนายนิคมได้ชี้แจงขั้นตอนกระบวนการถอดถอนนายสุเทพว่า ขอแจ้งเตือน ส.ว.ทุกคน ว่าตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ตั้งแต่ข้อ 114 เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการออกเสียงลงคะแนนตามข้อ 124 สมาชิกต้องวางตัวเป็นกลางและเที่ยงธรรม ไม่กล่าวหรือแสดงไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ซึ่งข้อความหรือความเห็นอันจะทำให้การพิจารณาและการวินิจฉัยของที่ประชุมต้องเสียความยุติธรรมไปได้ เช่น การวิพากษ์ต่อสาธารณะในการดำเนินคดีหรือพยานหลักฐานของฝ่ายใดในลักษณะที่ไม่เหมาะสมต่อความเป็นกลางในคดี การให้ความเห็นต่อสาธารณะโดยประสงค์จะบ่งบอกให้ทราบว่าตนจะมีมติเช่นใด การให้ความเห็นในหมู่สมาชิกอันเป็นการผิดจากข้อเท็จจริงแห่งคดี หรือเป็นการวิพากษ์โดยไม่เที่ยงธรรม อันส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่เกี่ยวข้องในคดี และการชักจูงหรือชี้แนะในลักษณะที่เสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของการเป็นสมาชิก
ต่อมานายสุเทพได้แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อขอยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม คือ คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้วินิจฉัยกรณี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งแต่งตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปปฏิบัติงานที่ ศปภ. ซึ่งในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยยกฟ้อง โดยนายสุเทพ อ้างว่ากรณีดังกล่าวตนไม่สามารถทราบก่อนว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร จึงไม่ได้นำไปอ้างอิงในช่วงการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช. ซึ่งกรณีของตนเทียบเคียงแล้วพบว่าใกล้เคียงกัน และได้ศึกษาคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ที่ผ่านมา จึงเห็นว่าน่าจะเป็นข้อมูลหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของวุฒิสภา
ขณะที่ นายชัยรัตน์ ขนิษฐบุตร ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ป.ป.ช.ชี้แจงว่า พยานหลักฐานที่นายสุเทพนำมายื่นเพิ่มเติมเป็นหลักฐานที่ไม่เคยเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.มาก่อน ทาง ป.ป.ช.จึงไม่ขัดข้อง จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นายสุเทพเพิ่มเติมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาของวุฒิสภา ด้วยคะแนน 98 ต่อ 1 เสียง โดยการประชุมนัดต่อไปวันที่ 7 ก.ย. จะให้ผู้กล่าวหาคือ ป.ป.ช.แถลงเปิดคดี และให้ผู้ถูกกล่าวหาคือนายสุเทพ แถลงคำคัดค้าน