xs
xsm
sm
md
lg

คำสั่งศาลได้ผลชะงัด สังคมเริ่มสงบลงบ้าง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เชื่อว่าหลายคนคงไม่ผิดหวังกับคำสั่งของศาลอาญาที่ถอนประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก” หรือยศวริศ ชูกล่อม แกนนำคนเสื้อแดงจนต้องเข้าไปในนอนอยู่ในเรือนจำ ขณะที่แกนนำอีกหลายคน รวมทั้ง จตุพร พรหมพันธุ์ ศาลยกคำร้องรอดคุกไปได้หวุดหวิด ใจหายใจคว่ำ

แน่นอนว่าภาพภายนอกที่เห็น นายเจ๋งชูมือที่สวมกุญแจมือหราระหว่างที่ถูกนำตัวเข้าเรือนจำเป็นภาพที่ลงในหน้าหนังสือพิมพ์ออกตามสื่อ มองบางมุมอาจดูเท่และมีราคาโดดเด่นขึ้นมา เพราะติดคุกอยู่คนเดียว โฟกัสก็ย่อมมาที่เขาคนเดียว เด่นดังกว่าใคร แต่เชื่อว่าความเด่นดังในลักษณะดังกล่าวบางครั้งถ้าปฏิเสธได้ก็ต้องปฏิเสธให้ไกล

ภาพที่เห็นอาจตรงกันข้ามกับความรู้สึกภายใน เพราะรับรองว่าไม่ว่าใครก็ตามจะต้องเห็นตรงกันว่าการติดคุกนั้นมันไม่สนุก แม้จะทำเท่ภายนอกก็ตาม แต่หลังจากนั้นเมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำหรือห้องควบคุมก็ต้องเอามือก่ายหน้าผาก ซึ่งในกรณีของ เจ๋ง อาจมีสิทธิพิเศษ เนื่องจากมีพรรคพวกเป็นรัฐบาล ตั้งมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่ถูกมองว่าเป็นคนกันเองอาจจะดูแลอย่างดี อาจสั่งย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไปยังโรงเรียนพลตำรวจบางเขน สถานที่คุมขังกันไว้สำหรับนักโทษการเมือง แต่รายนี้ถือว่า “กันเอง” ไม่เป็นไร

ไม่ว่ากัน เพราะถึงอย่างไรอย่างที่บอกไม่ว่าติดคุกที่ไหนมันไม่สนุกแน่นอน เนื่องจากการอยู่ในคุกดังกล่าวยังมีผลสะเทือนต่อตำแหน่งทางการเมือง คือ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับเป็นบำเหน็จรางวัลหลังเหตุการณ์จลาจลอาจกระทบกระเทือน แม้ว่าจะพยายามยื้อกันว่าคดียังไม่ถึงที่สุด แต่หากมีมารยาทมันก็ต้องมีการพิจารณาฉุกคิดกันบ้าง

วกมาที่แกนนำคนอื่นที่รอดคุกไปได้อย่างหวุดหวิด อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นต้น ที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะเดินเท้าไปเรือนจำ ซึ่งเป็นคำพูดเอาเท่เอามันอย่างเดียว ไม่ได้ดูความเป็นจริง เพราะถ้าได้เห็น นายเจ๋งที่ถูกใส่กุญแจมือคุมตัวขึ้นรถไปเรือนจำทันทีมันก็ไม่มีโอกาสให้ทำเลยแม้แต่น้อย เพราะนั่นหมายถึงการสูญเสียอิสรภาพ

แต่ในเมื่อตัวเองรอดก็ถือว่าศาลยังปรานี แม้จะสร้างความผิดหวังให้กับหลายคนเหมือนกัน เพราะคิดว่าเขานี่แหละที่ “ดีแต่พูด” ปลุกระดมบิดเบือนสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมืองมาช้านาน รวมถึงการพูดจาต่อหน้าฝูงชนข่มขู่คุกคามศาลต่างกรรมต่างวาระ น่าจะโดนด้วย

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าพิจารณาก็คือ คำสั่งศาลดังกล่าวเหมือนกับว่าเป็นการลงมาจัดระเบียบสังคมด้วยตัวเอง โดยอาศัยกฎหมายที่มีอยู่ในมืออย่างเข้มข้น และเป็นขั้นเป็นตอนอย่างที่เห็นทั้งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม และก่อนหน้านี้ หากไล่เรียงมาเป็นขั้นเป็นตอนเริ่มตั้งแต่การพิจารณาไต่สวนแกนนำก่อนเพิกถอนประกันบางคน รวมทั้งการออกระเบียบศาลเพื่อควบคุมมวลชนคนเสื้อแดงไม่ให้ละเมิดอำนาจศาลอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำกันอยู่ตลอดเวลาซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาให้ละเอียดบรรดาแกนนำที่เหลือแม้จะรอดคุก แต่ก็มีเงื่อนไขใหม่ที่เข้มข้นและเคร่งครัดนั่นคือห้ามปลุกระดม ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก เงื่อนไขดังกล่าวนี่แหละที่เป็นชนักปักหลังอยู่ตลอดเวลา เพราะแม้แต่การเคลื่อนไหวยังถูกควบคุมนั่นคือห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน

เชื่อว่าด้วยคำสั่งที่เกิดขึ้นทำให้บ้านเมืองดูสงบลงบ้าง เพราะหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าตั้งแต่คนพวกนี้ต้องลุ้นเรื่องคำสั่งถอนประกันหรือไม่มานานหลายสัปดาห์ก็ไม่เคยได้ยินเสียงพูดจาระคายหูออกมาให้ได้ยินอีกด้วย ยิ่งในวันที่ต้องลุ้นว่าคุกไม่คุกอยู่นั้นก็ได้เห็นอาการที่ไม่ต่างจากการดิ้นทุรนจนดูน่าเวทนา

ดังนั้น เชื่อว่าด้วยผลแห่งคำสั่งของศาลอาญาที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลให้บรรดาแกนนำพวกนี้ต้องสงบปากคำลงอย่างได้ผล อีกทั้งยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงบรรดาพวกระดับปลายแถวถัดลงไปไม่กล้าก่อความวุ่นวายได้อีก เพราะได้เห็นตัวอย่างอยู่ต่อหน้า อีกทั้งบรรยากาศยามนี้ไม่ใช่สถานการณ์สู้รบที่เคยฮึกเหิมเหมือนก่อน ตรงกันข้ามเป็นยุคที่ต้องเอาตัวรอด กลับมาสู่ความจริงมันก็ยิ่งหวาดเสียว

แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือนี่เป็นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าศาลได้ลุกขึ้นมาจัดระเบียบสังคมด้วยตัวเองแล้ว!!

กำลังโหลดความคิดเห็น