00 กลายเป็น “ตลกไม่ออก” ไปแล้วสำหรับ “เจ๋ง ดอกจิก” ในชื่อจริงที่เรียกว่า ยศวริศ ชูกล่อม เมื่อศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันหรือปล่อยตัวชั่วคราว จากพฤติกรรม “กร่าง” เคยข่มขู่ตุลาการศาลรธน. อย่างไรก็ดี กรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการ “ตายเดี่ยว” เพราะ “หัวโจก” รายอื่น อย่าง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ กลับรอดไปหวุดหวิด ซึ่งรายของ เจ๋ง นั้นศาลเห็นว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว และแม้จะอ้างว่ามีการขอโทษในภายหลังแล้ว แต่ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะไม่ได้ทำให้สิ่งที่ทำลงไปแล้วกลับมาเหมือนเดิมได้
00 สิ่งที่ได้เห็นในวันที่ศาลอ่านคำสั่งก็คือ ได้เห็นธาตุแท้และความกลัวของบรรดาพวกที่เป็น “หัวโจก” แต่ละคนนั้นอยู่ในอาการตื่นกลัว กลัวว่าตัวเองจะต้องสิ้นอิสรภาพ สิ้นสภาพในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่าง เจ๋ง ถึงขนาดลงทุนอ้อนวอนขอความเมตตา สำนึกผิด มีการระดมพยานทั้งที่เป็นลูกพี่ของตัวเองในฐานะ รมช.มหาดไทย อย่าง ฐานิสร์ เทียนทอง ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น จนแทบลืมไปแล้วว่าเป็นรมต.ในรัฐบาล มาวันนี้อุตส่าห์มารับรองความประพฤติด้วยตัวเอง ซึ่งศาลก็ไม่เชื่อ ไม่ให้น้ำหนัก และก็ไม่รอดคุกดังกล่าว ยังดีที่ไม่ลากเอา ยงยุทธ วิชัยดิษฐ มท.1 ในฐานะลูกพี่ใหญ่ไปรับรองเพื่อรอประกันตัว โชคดีที่หดมือชักกลับมาทัน ไม่เช่นนั้นก็หน้าแตกกันชุดใหญ่
00 มองอีกมุมหนึ่งนี่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของคนที่เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ที่แม้เป็นแค่ช่วยว่าการ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของชาวบ้าน แต่นี่ดันไป “หน้ามืดรับรอง” พวกเดียวกัน โดยไม่สนใจว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไร มันก็ช่วยไม่ได้ว่า “ลูกน้องเป็นอย่างไร นายก็ต้องเป็นอย่างนั้น”
00 น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือในคำสั่งของศาลเที่ยวนี้ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของบรรดาหัวโจกดังกล่าว แม้ว่าจะยกคำร้องจนรอดคุก แต่ก็เข้มห้ามเคลื่อนไหวปลุกระดม ปลุกปั่น ห้ามเดินทางออกนอกประเทศหากไม่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน นั่นก็หมายความว่า ต่อไปคนพวกนี้จะไปมีพฤติกรรมถ่อยเถื่อนข่มขู่คุกคามคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว และต่อไปเราคงไม่ได้เห็นลีลาของ จตุพร รวมไปถึงคนอื่นๆ อีกนานเลยละ
00 น่าสังเกตก็คือคำสั่งของศาลดังกล่าวทั้งที่ถอนประกัน เจ๋ง ดอกจิก หรือยกคำร้องให้พวกหัวโจกที่เหลือได้รอดคุก แต่ก็ถือว่า “เข้ม” มองอีกมุมหนึ่งนี่คือการ “จัดระเบียบสังคม” ของศาล สร้างความมั่นใจและมีความหวังกับสังคมมากขึ้นหลังจากที่ไม่อาจพึ่งพากลไกรัฐอื่นๆ โดยเฉพาะตำรวจได้เลย ขณะเดียวกันกรณีของ เจ๋ง เหมือนกับเชือดให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเห็นแค่นี้รับรองว่าหนาวกันระนาว เพราะถ้าสังเกตที่ผ่านมา จตุพร หายซ่าส์ไปเลย !!
00 สิ่งที่ได้เห็นในวันที่ศาลอ่านคำสั่งก็คือ ได้เห็นธาตุแท้และความกลัวของบรรดาพวกที่เป็น “หัวโจก” แต่ละคนนั้นอยู่ในอาการตื่นกลัว กลัวว่าตัวเองจะต้องสิ้นอิสรภาพ สิ้นสภาพในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่าง เจ๋ง ถึงขนาดลงทุนอ้อนวอนขอความเมตตา สำนึกผิด มีการระดมพยานทั้งที่เป็นลูกพี่ของตัวเองในฐานะ รมช.มหาดไทย อย่าง ฐานิสร์ เทียนทอง ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น จนแทบลืมไปแล้วว่าเป็นรมต.ในรัฐบาล มาวันนี้อุตส่าห์มารับรองความประพฤติด้วยตัวเอง ซึ่งศาลก็ไม่เชื่อ ไม่ให้น้ำหนัก และก็ไม่รอดคุกดังกล่าว ยังดีที่ไม่ลากเอา ยงยุทธ วิชัยดิษฐ มท.1 ในฐานะลูกพี่ใหญ่ไปรับรองเพื่อรอประกันตัว โชคดีที่หดมือชักกลับมาทัน ไม่เช่นนั้นก็หน้าแตกกันชุดใหญ่
00 มองอีกมุมหนึ่งนี่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของคนที่เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ที่แม้เป็นแค่ช่วยว่าการ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของชาวบ้าน แต่นี่ดันไป “หน้ามืดรับรอง” พวกเดียวกัน โดยไม่สนใจว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไร มันก็ช่วยไม่ได้ว่า “ลูกน้องเป็นอย่างไร นายก็ต้องเป็นอย่างนั้น”
00 น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือในคำสั่งของศาลเที่ยวนี้ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของบรรดาหัวโจกดังกล่าว แม้ว่าจะยกคำร้องจนรอดคุก แต่ก็เข้มห้ามเคลื่อนไหวปลุกระดม ปลุกปั่น ห้ามเดินทางออกนอกประเทศหากไม่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน นั่นก็หมายความว่า ต่อไปคนพวกนี้จะไปมีพฤติกรรมถ่อยเถื่อนข่มขู่คุกคามคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว และต่อไปเราคงไม่ได้เห็นลีลาของ จตุพร รวมไปถึงคนอื่นๆ อีกนานเลยละ
00 น่าสังเกตก็คือคำสั่งของศาลดังกล่าวทั้งที่ถอนประกัน เจ๋ง ดอกจิก หรือยกคำร้องให้พวกหัวโจกที่เหลือได้รอดคุก แต่ก็ถือว่า “เข้ม” มองอีกมุมหนึ่งนี่คือการ “จัดระเบียบสังคม” ของศาล สร้างความมั่นใจและมีความหวังกับสังคมมากขึ้นหลังจากที่ไม่อาจพึ่งพากลไกรัฐอื่นๆ โดยเฉพาะตำรวจได้เลย ขณะเดียวกันกรณีของ เจ๋ง เหมือนกับเชือดให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเห็นแค่นี้รับรองว่าหนาวกันระนาว เพราะถ้าสังเกตที่ผ่านมา จตุพร หายซ่าส์ไปเลย !!
