รายงานการเมือง
โหมโรงประโคมข่าวกันไว้ก่อน สำหรับการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ที่ตั้งแท่นจะพ่นน้ำลายกลางเวทีสภาช่วงปลายเดือนกันยายน เนื่องเพราะต้องเตรียมเอกสารกันอย่างน้อยอีกเดือนเศษ
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยดูเหมือนจะไม่อยากให้เสียโอกาส รอนานชักคันไม้คันมือ จึงเตรียมจัดงาน “รัฐบาลพบประชาชน ทุนเพื่อคุณภาพชีวิต” ในวันที่ 25-26 สิงหาคม เป็นการรวมรวบข้อมูลโครงการสำคัญๆ ที่รัฐบาลอวดอ้างว่าทำสำเร็จแล้ว หรือลงมือทำแล้ว ไปเผยแพร่ต่อประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ
ถ่ายทอดโทรทัศน์ วิทยุ จัดกิจกรรมควบคู่อย่างเอิกเกริก มอบหมายให้คณะกรรมการโซนที่พรรคตั้งขึ้น 19 โซน รับผิดชอบไปบริหารจัดการ ใช้เครือข่าย ส.ส.ขยายผลงานให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด
สมยี่ห้อพรรคการเมืองที่เก่งเรื่องการตลาด แม้ผลงานจะดูดาดๆ แต่ใช้การตลาดช่วยได้ ตามไตล์ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหลบหนีคดีที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ชนิดหาตัวจับยาก เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยมีความโดดเด่น เรียกกระแสนิยมได้มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังอ่อนเชิงการตลาด แต่เชี่ยวกรากทางการเมือง
เปรียบไปแล้วพรรคเพื่อไทยดูมีความทันสมัย ฉับไวกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนรถไฟฟ้า กับ รถไฟธรรมดา ไม่รู้ทำไมไม่คิดทำอะไรให้ว่องไว ปรับตัวให้ทันสมัยบ้าง ชั่วโมงนี้เอาแต่หลังพิงอำมาตย์ถ่ายเดียวก็ตายพอดี ไม่ทันกินคนอื่นเขา...
กระนั้นในความรวดเร็ว การเข้าถึงเป้าหมายฉับไวของพรรคเพื่อไทย ระหว่างทางก็เกิดอาการเครื่องรวน น็อตหลุดให้เห็นหลายครั้งเหมือนกัน ด้วยสไตล์การบริหารเชิงธุรกิจ คิดแต่ส่วนต่างผลกำไรเป็นที่ตั้ง ไม่ค่อยอะลุ้มอล่วยรอมชอม
ล่าสุดก็มีข่าวขัดแข้งขัดขากันเองเกี่ยวกับมหกรรมงานใหญ่ๆ ที่รัฐบาลจัดขึ้น เช่นงาน 5 กองทุน 5 นโยบายรัฐ เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน ในมหกรรมการเงิน หรือมันนีเอ็กซ์โป เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่เดอะมอลล์โคราช แว่วว่า ส.ส.นครราชสีมาได้เปิดฉากจวก ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่าเน้นการจัดงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการในสังกัดมากเกินไป ไม่เห็นหัว ไม่ให้ความสำคัญกับ ส.ส.พื้นที่ของพรรค
เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่ ส.ส.จะได้มีบทบาทนำผลงานนโยบายรัฐบาล นโยบายพรรคลงสู่พื้นที่ เลยพาลว่าจัดงานแล้วไม่คุ้มค่า ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่!!
เกิดเป็นความระหองระแหงกันเอง รัฐมนตรีกับ ส.ส.ไม่ประสานกัน ฝ่ายรัฐมนตรีก็จะรีบเร่งทำผลงานเอาหน้า เอาคะแนน ชั่วโมงนี้ต้องรีบทำงานกันหัวหกก้นขวิด เพราะงวดใกล้เข้าถึงฤดูกาลปรับ ครม.ทุกขณะ ขืนรอนั่นรอนี่ เก้าอี้หลุดทวารแน่
ฝ่าย ส.ส.เองก็คิดว่านานๆ จะมีมหกรรมใหญ่ๆ มาจัดในพื้นที่ แทนที่จะช่วยเหลือกันแบ่งคะแนนนิยม กลับไปอี๋อ๋อกับเครือข่ายข้าราชการ ไม่สนใจพวกเดียวกันเสียฉิบ จึงต้องฟ้องให้ผู้ใหญ่ในพรรคลงแส้กันหน่อย
ดูไปดูมาก็ว้าเหว่ส่ออาการเอาตัวรอด คิดถึงแต่ผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น!!
ไม่รู้ว่างานใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25-26 สิงหาคมนี้ จะเกิดเหตุการณ์อลเวงแบบนี้ขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะเรื่องเสนอหน้าเอาคะแนนน่ะถนัดกันนัก แต่เวลาทำงานจริงๆ หลายคนก็ไม่ต่างจากราชการ เช้าชาม เย็นชาม!!
เรื่องผลประโยชน์มันไม่เข้าใครออกใคร แม้แต่คนพรรคเดียวกัน ปฏิบัติการล่าสุดของ “ฉลอง เรี่ยวแรง” ส.ส.ฝีปากกล้าจากนนทบุรี ยักท่าแกมข่มขู่จะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในรัฐบาลตัวเอง!!
พูดชัดเจนว่าการซักฟอกของฝ่ายค้านเที่ยวนี้ หากประเด็นที่จะถล่มรัฐมนตรีบางคนเกี่ยวพันกับเรื่องที่ตัวเองจับอยู่ จะขออภิปรายสนับสนุนด้วย โฟกัสไปที่การทำงานของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร อยู่ด้วยกัน
หากวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ชูวิทย์” ลุกขึ้นซัดไปที่การทำงานของตำรวจ กรณีเปิดให้บ่อนเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง คล้ายกับเปิดเสรี ก็จะขอลุยลากไส้เรื่องฉาวๆ นี้เช่นเดียวกัน ไม่สนใจว่าคนที่รับผิดชอบสูงสุดเป็นใคร พร้อมออกตัวไว้ก่อนแล้วว่าเรื่องนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้อง..
นั่นก็เป็นคนอื่นไม่ได้นอกจาก “เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมไปถึงนายตำรวจใหญ่น้อยทั้งหลาย โดยเฉพาะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง “ฉลอง” เตรียมสวมวิญญาณงูเห่า ถล่มคนกันเองให้สาแก่ใจ ประกาศล่วงหน้า “ผมไม่กลัวเฉลิม”
ไม่รู้ไปแค้นเคืองเรื่องใดมา แต่ที่ผ่านมาแว่วๆ ว่าไม่ค่อยกินเส้นกัน “สารวัตรเหลิม” ก็แอบนินทา “ฉลอง” เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ในพื้นที่บางอย่าง ขณะที่ “ฉลอง” ก็ไม่ค่อยพอใจการทำงานของ “เฉลิม”
“ฉลอง-เฉลิม” จ้องจะเปิดศึกภายในกันเอง ก่อนที่จะเปิดศึกกับฝ่ายค้าน!!
“ผมเอือมระอาในหลายๆ เรื่อง หากสิ่งที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายตรงกับสิ่งที่ตนอยากพูดก็จะพูดสนับสนุน โดยเฉพาะความไม่ชอบมาพากลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไม่กวดขันจับบ่อนการพนันซึ่งเปิดกันอย่างเปิดเผย ผมเป็น ส.ส.เป็นลูกพรรค ทำตามนโยบายนายกฯ เรื่องบ่อน การพนันแบบนี้มีไม่ได้
ถ้าผมลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แจ้งตำรวจแล้วไม่มา ก็ต้องฟ้องฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ไม่ว่าใครจะใหญ่โตแค่ไหน ใครรับผิดชอบตรงนี้ก็ต้องรับผิดไป ทั้งรองนายกฯ ผบช.น. ผมไม่กลัวใครทั้งนั้น”
อยู่ดีๆ ก็ออกมาปัดแข้งปัดขาสร้างความเดือดร้อนภายในกันเองเสียอย่างนั้น นายกฯ แกนนำพรรคหลายคนคงไม่ปลื้มแน่กับปฏิกิริยาครั้งนี้ “ฉลอง” ออกมาเมื่อไหร่ ก็มีงานเมื่อนั้น
แต่ดูแล้วมันก็ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของชาติหรือประชาชนอะไรหรอก
เรื่องมันก็เข้าอีหรอบเดิมๆ ผลประโยชน์ใครผลประโยชน์มัน เมื่อถูกรังควานก็ต้องออกมาเทคแอ๊คชั่นออกงิ้วกันหน่อย เพราะโดยส่วนตัว “ฉลอง” แล้วก็รู้ๆ กันอยู่ นักเลงหัวไม้ อย่างล่าสุด กรณีคลิปหลุดก็ออกลูกนักเลงข่มขู่คนอื่น อ้างตัวเองมีอำนาจบาตรใหญ่สามารถสั่งย้ายใครก็ได้ กร่างกร้าวเต็มที่เหมือนกัน
สนิมเนื้อใน หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ คีย์แมนแกนนำพรรคเพื่อไทยคงต้องเรียกไปคุยปรับความเข้าใจก่อนเรื่องลุกลามบานปลายโดยไม่จำเป็น เรื่องฉาวๆ โฉ่ๆ ต้องปกปิดไว้ กระโตกกระตากไปมีแต่เสียกับเสีย
พวกฝนตกขี้หมูไหล คอกเดียวกันทั้งนั้น วันดีคืนดีไม่ถูกใจกันเสียงมันก็เล็ดลอดมาประจานตัวเอง ก็เท่านั้นแหละ!!