สะเก็ดไฟ
“ปัญหาที่เกิดขึ้นผมไกล่เกลี่ยให้ เพื่อจะได้ไม่มีเรื่องบาดหมางหรือขัดใจกัน เพราะเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน โดยผมบอกนายเจริญชัดเจนว่า ขอให้ว่ากันไปตามกฎหมาย หากผิดจริงก็ให้ยึดที่ดินและดำเนินคดีตามกฎหมายกับเพื่อนผมได้เลย ไม่ต้องละเว้น แต่นายเจริญก็ต้องชี้แจงให้ถูกต้องเช่นเดียวกัน
ซึ่งผมไม่ได้ไปขู่หรือไล่อะไรนายเจริญ ผมไม่เคยพูด ในคลิปเสียงมีหรือ อะไรผิดก็บอกว่าผิด ผมรับผิดชอบคำพูดหมด ส่วนที่มีคลิปเสียงของผมถามว่าจะรบกับกูหรือ เป็นเพียงแค่คำพูดแบบของขึ้น เขาเล่นคำมา ถามผมว่านี่ฉลองตัวจริงหรือ ผมก็ยืนยันว่าตัวจริง เสียงจริง ซึ่งผมขอให้นายเจริญพูดจาดีๆ แต่กลับมาท้าทาย ผมก็อาจจะพูดจาหลุดไป
ส่วนเรื่องที่ดิน 70 ไร่ นั้น เพื่อนผมบอกเป็นที่ถูกต้อง ซึ่งข้อเท็จจริงอย่างไรผมก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าผิดเป็นที่อุทยานผมไม่เอาอยู่แล้ว คนอย่างผมไม่เอาสมบัติของใคร ดังนั้นไปฟังเทปให้ละเอียด”
เป็นคำกล่าวของ ฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย หลังมีคลิปโผล่ยูทูปว่าข่มขู่ เจริญ ใจชน อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ว่าจะย้ายออกจากพื้นที่ หากไม่ช่วยเหลือเพื่อนตัวเองซึ่งทำผิดรุกที่อุทยาน ซึ่งต้องบอกว่า
“แถได้อย่างหน้าด้านจริงๆ”
เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ฟังคลิปฉบับเต็ม ซึ่งมีสองตอนจะเห็นชัดเจนว่า สิ่งที่ ฉลอง พูดนั้น ไม่ต่างอะไรจากคำพังเพยที่ว่า “คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว” โดยจะได้หยิบยกเนื้อหาจากการสนทนา ซึ่ง ฉลอง ยอมรับว่าเป็นเสียงตัวเองแสดงให้เห็นสันดานดิบของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติว่า ยังเหลือเกียรติพอให้ใครนับถืออีกหรือไม่
ประเด็นแรก ฉลองอ้างว่าได้บอกกับนายเจริญว่า หากเพื่อนตนเองผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายได้เลย แต่ในคลิปเสียงพูดดังนี้ “นี่มันของจริง มันเป็นเพื่อนผม จะต้องเอารัฐมนตรีหรือใคร ผมโทร.ได้หมด ถ้าคุณอยู่ที่นี่ผมว่าเพื่อนผมลำบาก คุณทะเลาะกับเพื่อนผมตลอด ผมอยู่ 4 ปีนะโว้ย รอบนี้ผมไม่ใช่กระจอกๆ ผมโทร.ได้ทุกกระทรวง ถ้าคุณยังทะเลาะกับเพื่อนผมที่ทองผาภูมิ คุณน่าจะไปอยู่ที่อื่นดีกว่ามั้ง”
ถามวิญญูชนที่วิจารณญาณไม่บกพร่อง ว่านี่คือคำพูดที่ตรงกับสิ่งที่ฉลองชี้แจงต่อสังคมหรือไม่
ฉลองบอกต่อสังคมด้วยว่า “ผมไม่ได้ไปขู่หรือไล่อะไรนายเจริญ ผมไม่เคยพูด ในคลิปเสียงมีหรือ อะไรผิดก็บอกว่าผิด ผมรับผิดชอบคำพูดหมด ส่วนที่มีคลิปเสียงของผมถามว่าจะรบกับกูหรือ เป็นเพียงแค่คำพูดแบบของขึ้น”
แต่ความจริงจากคลิปเสียงมีดังนี้ “ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ มานั่งตรงนี้ ยงยุทธ ตู้เย็น ให้ผมมาอยู่ตรงนี้ อธิบดีอะไรพวกเนี้ยะเขาย้ายกันหมดแล้วนะ เป็นนโยบายแล้วนะเราจะเขี่ยออกหมด สายไหน สายไหนเราไม่เอาไว้หรอก ตอนนั้นผมไม่เป็น ส.ส.คุณอาจไม่ฟังผมหรอก ตอนนี้ผมเป็น ส.ส.คุณต้องฟังผม ผมไม่อยากทำร้ายคุณหรอก อ๊อดมันเพื่อนรักผม เอาโน่นมาใส่เรื่องนั้นผมเคลียร์หมดแล้ว ให้เลขาฯ โทร.ไปก็จบ มันไม่ยากสำหรับผมหรอกชั่วโมงเนี่ย”
ถามวิญญูชนที่วิจารณญาณไม่บกพร่องว่า นี่คือการแสดงความกร่าง ข่มขู่คุกคามข้าราชการโดยใช้อำนาจรัฐใช่หรือไม่
ฉลองบอกด้วยว่า “ส่วนเรื่องที่ดิน 70 ไร่ นั้นเพื่อนผมบอกเป็นที่ถูกต้อง ซึ่งข้อเท็จจริงอย่างไรผมก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าผิดเป็นที่อุทยานผมไม่เอาอยู่แล้ว คนอย่างผมไม่เอาสมบัติของใคร ดังนั้นไปฟังเทปให้ละเอียด”
เมื่อฟังคลิปเสียงอย่างละเอียดมีเนื้อหา ดังนี้ “คุณจะมารบกับผมกับเพื่อนผมชั่วโมงนี้อย่ามารบเลย รบไม่ชนะผมหรอก ตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าอุทยาน คุณเจริญมาสายตรงข้ามกับผม ถ้าจะเอาจริงๆ ผมไม่เลี้ยง ไม่เอาไว้หรอก ถ้าคุณอยู่มีปัญหากับเพื่อนผมหรือเปล่า เจริญ คุยกับพี่คุยตรงได้ ... มันบอกว่าจะให้ที่ผม 70 ไร่ ผมจะเอามาลงยาง เดี๋ยวบอกเสี่ยลาว ดูแลช่วยเกษตรเนี่ยให้เอายางมาให้ ก็ถามว่าที่มันถูกต้องหรือเปล่า เขาก็ยืนยันว่าถูกต้อง ทีมงานผมอยู่ที่นั่นหมด สมชาย เพศประเสริฐ ก็อยู่ที่นั่น มีทางที่เราจะไม่ทะเลาะกันไหม ว่าแต่ที่ดินนั้นเป็นของอุทยานจริงเหรอ อยากได้ก็อยากได้ พอมีช่องทางไหม”
ถามวิญญูชนที่วิจารณญาณไม่บกพร่องว่า นี่คือคนที่พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ละโมบโลภมากคิดงาบที่อุทยานฯ หรือเป็นคนคิดใช้อำนาจฮุบกระทั่งที่ดินหลวง
ถามต่อไปถึงคนเสื้อแดงว่า กรณีลักษณะนี้ไม่คิดว่าถูกเหยียบย่ำจากอำมาตย์ในพรรคการเมืองที่พวกท่านเชิดชูบ้างหรือ ส.ส.พรรคเพื่อไทยรายนี้ ใช้อำนาจรัฐบาลไพร่ย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาป่าให้แผ่นดิน
ในขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานโดยไม่มีใครเหลียวแล ไม่มีใครคิดออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนที่ปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนหาที่ทำกินเพื่อยังชีพ แต่พวกเขาเดินหน้าล้างความผิดให้กับคนปล้นชาติโกงแผ่นดิน เผาบ้านเผาเมือง
ถามคนเสื้อแดงว่า พวกท่านไม่เจ็บปวดแล้วหรือว่า สังคมไทยมันมีความเหลื่อมล้ำ คนมีอำนาจได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนที่ยากไร้ ความเป็นธรรมที่รัฐบาลไพร่หยิบยื่นให้ผ่าน ส.ส.นนทบุรีของพรรคเพื่อไทย คือ มีเงิน มีอำนาจ เท่ากับอยู่เหนือกฎหมาย
และขอฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า กรณีชัดเจนว่า ฉลองกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ที่บัญญัติ ห้ามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการปฏิบัติงานของข้าราชการตามที่บัญญัติไว้ใน รธน.แห่งมาตรา 266
บ้านเมืองมีปัญหาเพราะคนมีหน้าที่ไม่มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง การหยุดยั้งคนชั่วไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ข้าราชการดีๆ เป็นเรื่องที่ กกต.พึงกระทำ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ใครร้องเรียน
เพราะหากทุกอย่างต้องรอให้มีคนป้อนถึงปากก็เท่ากับ กกต.ทั้ง 5 คนยอมรับว่าองค์กรนี้มันพิกลพิการจนขับเคลื่อนแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยตัวเองไม่ได้!