xs
xsm
sm
md
lg

“สัก” มั่นใจลงสมัคร ส.ว.สรรหาอีกรอบ ลั่นคุณสมบัติครบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสัก กอแสงเรื่อง นายกสมาคมสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้สมัคร ส.ว.สรรหา (ภาพจากแฟ้ม)
นายกสมาคมทนายความฯ มั่นใจมีคุณสมบัติครบ ลงสมัคร ส.ว.สรรหาอีกรอบ แม้ถูกศาลฎีกาเพิกถอน เผย ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา อีกด้านหนึ่งมูลนิธิเสียงธรรม ขอสภาทนายความช่วย หวั่นหลักเกณฑ์ กสทช.จำกัดกำลังส่งวิทยุธรรมะ

วันนี้ (22 ส.ค.) นายสัก กอแสงเรือง นายกสมาคมสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาสรรหา (ส.ว.) ภาควิชาชีพ ว่า มั้นใจว่า ตนมีคุณสมบัตรครบถ้วนในการสมัครเป็น ส.ว.สรรหา และเป็นความเห็นของสภาทนายความที่เป็นผู้ส่งชื่อตนเองด้วย ส่วนจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา ทั้งนี้ จากคำวินิจฉัยของศาลฎีกา ระบุว่า การสรรหาไม่ชอบ เนื่องจากขาดคุณสมบัติและสักษณะต้องห้าม “แสดงว่า ตนไม่มีคุณสมบัติตั้งแต่ต้น จึงไม่มีสิทธิ์เข้าสู่ตำแหน่ง เมื่อไม่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งได้ การสรรหาที่ผ่านมาตามที่ศาลได้วินิจฉัยถือเป็นโมฆะ” เมื่อคำวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ ตนจึงได้นำเงินที่รับมาจากการดำรงตำแหน่ง ส.ว.ที่ผ่านมา ไปคืนที่รัฐสภาแล้ว เมื่อวานที่ผ่านมา (21 ส.ค.) และการตีความเช่นนี้เป็นการตีความโดยสุจริตไม่มีอะไรแอบแฝง

ด้าน นายเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายนโยบายและแผนงานสภาทนายความ กล่าวว่า จากคำสั่งของศาลฎีกาที่เพิกถอนการสรรหา นายสัก จากการเป็น ส.ว.โดยระบุว่า คุณสมบัติไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญมาตรา 119 อนุ 4 ระบุว่า สถานภาพของ ส.ว.จะสิ้นสุดลงเมื่อขาดคุณสมบัติตามมาตรา 115 และการขาดคุณสมบัติดังกล่าว ถือว่าขาดมาตั้งแต่ต้น แต่มีอีกประเด็นที่จะเป็นข้อถกเถียง คือ ตามมาตรา 119 อนุ 6 ที่มีการระบุว่า ความเป็นสมาชิกภาพ ส.ว.จะสิ้นสุดลงเมื่อศาลมีคำสั่งออกมา ซึ่งต้องมีการตีความกันต่อไป และทางสภาทนายความตีความว่า กรณีนี้ต้องใช่ มาตรา 119 อนุ 4 ที่ขาดสมบัตรตั้งแต่ต้น และเมื่อศาลฎีกาไม่ได้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง นายสัก จึงมีคุณสมบัติที่จะลงสมัคร และกรรมการสภาทนายความมีเสียงข้างมากให้นายสักเป็นผู้ลงสมัคร เนื่องจากเป็นผู้นำองค์กรและมีคุณสมบัติครบถ้วน

สำหรับความเคลื่อนไหวที่หน้าสภาทนายความ ตัวแทนพระสงฆ์วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ประชาชน และ มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน นำโดย พระอาจารย์ จิรวัฒน์ อัตฺตรักโข วัดป่าไชยชุมพล อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และ พระครูสมุห์สุชิน ปริปุญฺโญ วัดธรรมสถิต อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วยพระสงฆ์ และประชาชนจำนวนมาก ได้ยื่นหนังสือถึง นายสัก เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือทางกฎหมาย หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมร่างประกาศหลักเกณฑ์ว่าด้ายการทดลองประกอบกิจการวิยุกระจายเสียง ที่มีแนวคิดจำกัดกำลังส่งของคลื่นวิทยุกระจายเสียงประเภท บริการสาธารณะ บริการชุมชน และ กิจการทางธุรกิจ ที่จะขออนุญาตจัดตั้งใหม่ ซึ่งรวมถึงคลื่นของ มูลนิธิเสียงธรรม ที่กระจายเสียงธรรมะมากว่า 10 ปี ให้ใช่ความถี่ไม่เกิน 100 วัตต์ และใช้เสาส่งสัญญาณเพียง 40 เมตร จากเดิมที่มูลนิธิเสียงธรรม มีกำลังส่งสูงถึง 10,000 วัตต์ และมีเสาส่งสัญญานสูงถึง 120 เมตร ซึ่งทางกลุ่มดังกล่าวต้องการที่จะคงการดำเนินการเช่นเดิมต่อไป เพราะถือว่าเป็นคลื่นวิทยุที่มีประโยชต์ต่อประชาชน

โดย นายสัก ได้เป็นผู้รับเรื่องไว้ และมอบหมายให้ นายเจษฎา เป็นผู้รับเรื่องดำเนินการ โดย นายเจษฎา กล่าวว่า ทางสภาทนายความจะตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อศึกษาข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาว่าการกระทำของ กสทช.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของการประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ หรือไม่ หากขัดทางสภาทนายความจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งหรือการออกกฎข้อบังคับนั้นๆ ซึ่งในขณะนี้ข้อบังคับดังกล่าวยังไม่ได้ออกมาเป็นรูปธรรมแต่ดูจากความเห็นต่างๆ แล้วคาดว่าจะเป็นแนวคิดเดิน ทางมูลนิธิเสียงธรรมจึงมีความกังวลใจ และขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอให้ร่างประกาศดังกล่าวออกมาก่อนแล้วค่อยพิจารณาข้อเท็จจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น