อดีต กกต. “วีระชัย แนวบุญเนียร” ผู้ต้องหาคดีจัดการเลือกตั้งมิชอบ ถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคไตวายเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา บำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทร์ฯ ถึง 30 ส.ค.
วันนี้ (22 ส.ค.) มีรายงานว่า นายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุค พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ถึงแก่กรรมแล้วด้วยโรคไตวายเมื่อเช้าวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา สิริอายุได้ 72 ปี โดยศพของนายวีระชัยได้บำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ศาลา 3 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ส.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้นายวีระชัยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลเมื่อ 3 วันก่อน ทั้งนี้ครอบครัวของนายวีระชัยไม่ประสงค์ที่จะเปิดเผยถึงการเสียชีวิตของนายวีระชัยดังกล่าว
สำหรับนายวีระชัย เกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2483 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ จากสหรัฐอเมริกา ระดับปริญญาโท สังคมศาสตร์ จากสหราชอาณาจักร และสำเร็จหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รับราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับตำแหน่งสำคัญในกระทรวง เช่น ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เชียงใหม่ สงขลา มหาสารคาม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมโยธาธิการ หลังเกษียณอายุราชการ ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน
กระทั่งนายวีระชัยลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2549 สืบเนื่องจากศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2549 ให้ตัดสิทธิการเลือกตั้งนายวีระชัย พร้อมกับ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ เป็นเวลา 10 ปี และให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี ในคดีที่สมาชิก นายถาวร เสนเนียม ฟ้องในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณี กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่แบบแบ่งเขต เมื่อเมื่อวันที่ 23 และ 29 เม.ย. 2549 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนถึง ผอ.กกต.เขตเลือกตั้งให้รับสมัครผู้ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งเนื่องจากได้รับคะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 20 ทำให้เกิดการเวียนสมัคร และจัดคูหาลงคะแนนไม่ถูกต้อง มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งปี 2541 มาตรา 24 และ 42
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2551 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก พล.ต.อ.วาสนา นายปริญญา และนายวีระชัย คนละ 4 ปี พร้อมตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี โดยการที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าได้ประกอบคุณงามความดี รับราชการด้วยความวิริยะอุตสาหะ อีกทั้งได้ดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญมาก่อน ศาลเห็นว่าจำเลยดำเนินการเลือกตั้งที่สร้างความแตกแยกให้กับประเทศชาติบ้านเมืองและเกิดการต่อต้านการทำงานของจำเลยทั้ง 3 อย่างไม่มีมาก่อน ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบและเป็นการได้เปรียบของพรรคการเมืองบางพรรค การที่จำเลยได้เป็น กกต. แต่กลับไม่ได้ใช้ประสบการณ์สร้างความสงบสุขและช่วยระงับวิกฤตที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่จนสร้างวิกฤตให้ใหญ่ยิ่งมากขึ้น พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามจึงไม่มีเหตุปรานีลดโทษตามที่ขอ ที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจกำหนดโทษมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
นายวีระชัยได้ใช้สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาศาลยุติธรรม มูลค่า 6 แสนบาท ขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ทั้งนี้ นายวีระชัยมีโรคประจำตัวคือโรคไต ซึ่งก่อนหน้านี้ระหว่างที่ถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในคดีจัดการเลือกตั้งโดยมิชอบพร้อมกับ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.ในขณะนั้น นายวีระชัยยังต้องออกจากที่คุมขังเพื่อไปฟอกไตที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกด้วย ซึ่งปกตินายวีระชัยจะต้องเข้าฟอกไตเป็นจำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ : จับตา “ศาลฎีกา” จะพิพากษายืนจำคุก 4 ปี “3 อดีต กกต.” หรือไม่?