ปิดรับสมัครสรรหา ส.ว.ภาควิชาชีพ คนแห่สมัคร 35 ราย อดีต ส.ว.พรึ่บ เจ้าของเก้าอี้เดิม “สัก” โดดสมัครอีกรอบ “ประพันธ์” ชี้เป็นดุลยพินิจ คกก.สรรหาที่จะพิจารณาว่าดำรงตำแหน่งอีกรอบได้หรือไม่ พร้อมระบุยังเหลือเปิดรับสมัคร ส.ว.ภาครัฐ ส่วน พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น สภาชี้เพิ่มจำนวนกรรมการเข้าข่ายเป็น พ.ร.บ.การเงิน รอนายกฯ รับรอง
วันนี้ (21 ส.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมการเปิดรับสมัครลงทะเบียนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ภาควิชาชีพ แทนนายสัก กอแสงเรือง อดีต ส.ว.สรรหา ที่ศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนการสรรหา ในวันสุดท้าย จากที่ กกต.ได้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 21 ส.ค ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีผู้สนใจลงสมัครเข้ารับการสรรหารวม 35 ราย ประกอบด้วย 1.นางสุชาดา นันทะพานิชสกุล จากสมาคมอุตสาหกรรมและธุรกิจขนาดย่อม 2.พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร จากสมาคมวิชาชีพครูอำเภอเมืองพิจิตร 3.นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว.สรรหา จากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย 4.นายอนุสนธิ์ คุ้มคง จากสมาคมผู้ประกอบการวิชาชีพครูและบุคคลกรทางการศึกษา จ.ฉะเชิงเทรา 5.ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย อดีต ส.ว.สรรหา จากทันตแพทยสภา
6.นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต ส.ว.สรรหา จากสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) 7.นายอดิเรก ศรีวัฒนาวงษา ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 8.นางอัจฉรา เตชฤทธิพิทักษ์ จากสมาคมพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก (ประเทศไทย) 9.นายอภิโชติ แก้วสุขนนท์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา 10.นายวันชัย แสงสุขเอี่ยม อดีต ส.ว.สรรหา จากสมาคมการประมองนอกน่านน้ำไทย 11.นายสมบัติ อนันตรัมพร จากสมาคมเคเบิ้ลลิ่งไทย 12.พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง จากมูลนิธิคลังสมอง วปอ.เพื่อสังคม 13.นางยุพา วงศ์ไชย จากสมาคมนักสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย 14. นายจรวย หนูคง จากสำนักงานศาลปกครอง 15. นายอรรครัตน์ รัตนจันทร์ จากสมาคมสื่อสารมวลชนไทยอินโดจีน
16.พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพน จากสภาสถาปนิก 17.นายเปรมสันต์ ศีลปพิพัฒน์ จากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย 18.นายพงษ์ไพโรจน์ รัชตะทรัพย์ จากมูลนิธินักธุรกิจเพื่อรักษาความมั่นคงภายใน 19.นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 20.นางลีลาวรรณ กาญจนจารี จากมูลนิธิกฤตานุสรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ 21.นายชลิต แก้วจินดา จากสมาคมชาวไร่อ้อยลูกพระยาพิชัย 22.นายทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต จากสภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย 23.นายสุพจน์ ศรีสุวรรณ จากสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 24. นายรุสดี บินหะยีสะมะแอ จากสหกรณ์การเกษตรตันหยงมัส 25.นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ จากมูลนิธิช่วยเหลือเยาวชนสยาม (ชลบุรี)
26. นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล จากสมาคมนักปกครองแห่งประเทศไทย 27.นายพงศ์เทพ อันตะริกานนท์ จากสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพแห่งประเทศไทย 28.นายสัก กอแสงเรือง อดีต ส.ว.สรรหา จากสภาทนายความ 29.นางเพ็ญศรี จารุกำเนิดกนก จากสมาคมปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมมหาวิทยาลัยรามคำแหง 30.นายวัชรพล บุษมงคล จากสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย 31.นายนพดล แก้วสุวรรณ จากสมาคมนักเรียนเก่าเดินเรือพาณิชย์ 32.นางกฤษฎาภรณ์ รุจิธำรงกุล จากสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย 33.นายพงษ์เดช มโนรส จากชุมนุมสหรกร์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด 34.นางประกายแก้ว รัตนนาคะ จากสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ 35.นายประหยัด เสนวิรัช จากสมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ กกต.ก็จะได้มีการประชุมและเสนอรายชื่อผู้สมัครทั้งหมดไปให้คณะกรรมการสรรหาภายใน 5 วันนับแต่ปิดรับสมัคร ซึ่งคณะกรรมการสรรหาจะต้องพิจารณาสรรหาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันซึ่งคาดว่า กกต.จะสามารถประกาศผลการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาภาควิชาชีพในราชกิจจานุเบกษาและแจ้งต่อประธานรัฐสภาภายในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ส่วนกรณีที่นายสัก ซึ่งถูกศาลฎีกาเพิกถอนการสรรหาลงสมัครอีกครั้ง ก็เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการสรรหาที่จะพิจารณาว่านายสักสามารถลงสมัครได้หรือไม่ และหากจะเลือกนายสักเป็น ส.ว.ภาควิชาชีพอีกจะถือว่านายสักดำรงตำแหน่งวุฒิสภาติดต่อกันเกินหนึ่งวาระหรือไม่ เพราะก่อนที่นายสักจะถูกศาลฎีกาสั่งเพิกถอนนายสักก็เป็น ส.ว.อยู่
อย่างไรก็ตามยังคงเหลือการเปิดรับสมัครลงทะเบียนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ภาครัฐแทนนายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ที่ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนการสรรหา โดย กกต.กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ถึง 5 ก.ย.ซึ่งอยากให้องค์กรที่จะเสนอชื่อและผู้ที่สนใจจะลงสมัครตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนและมายื่นสมัครแต่เนิ่น เนื่องจากหากเดินทางมาสมัครในวันสุดท้ายใกล้เวลาปิดรับสมัคร ถ้ามีปัญหาเรื่องเอกสารไม่ครบก็จะทำให้พลาดการเข้ารับการสรรหาได้
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ไปที่รัฐสภาว่า ที่ กกต.ขอแก้ไขโดยให้เพิ่มจำนวนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จาก 7 คน เป็น 9 คน และกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนครบวาระ เพื่อไปสมัครในตำแหน่งอื่น ให้มีการชดใช้ค่าใช้จ่ายเลือกตั้งซ่อมนั้น ขณะนี้ทางประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งกลับมายังสำนักงาน กกต.ว่า พิจารณาแล้วเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็น พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงิน เพราะการเพิ่มจำนวนกรรมการประจำหน่วย นั้นเป็นการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้แก่เจ้าหน้าที่ จึงถือว่าเป็นการเพิ่มงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นแต่ละครั้ง ดังนั้นจึงต้องรอให้ทางนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับรองเสียก่อน ถึงจะส่งกลับมาให้ทางสภาดำเนินการต่อไปได้