เลขาฯ ป.ป.ท.เผยลงนามอนุมัติคดี จนท.ธนาคารรัฐปล่อยสินเชื่อ 7.5 พันล้าน ใช้ตั๋วสัญญาปลอมสั่งซื้อข้าวจากสวิตเซอร์แลนด์ค้ำประกันในยุคทักษิณ เล็งชง กก.ชุดใหญ่ ส่ง ป.ป.ช.ฟันต่อ แฉยังมีขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์อื่นเพิ่มด้วย รวมเสียหายนับหมื่นล้าน แย้มคนโดนมีเครดิตในสังคม
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตภาครัฐ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงนามอนุมัติคดีเจ้าหน้าที่ธนาคารของรัฐปล่อยสินเชื่อวงเงิน 7.5 พันล้านบาท ให้แก่เอกชนที่มีการใช้ตั๋วสัญญาปลอมในการสั่งซื้อข้าวจากสวิตเซอร์แลนด์มาค้ำประกัน ซึ่งตามขั้นตอนจะส่งให้อนุกรรมการและผ่านบอร์ด ป.ป.ท.ชุดใหญ่ อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดังนั้นเมื่อผ่านบอร์ด ป.ป.ท.ชุดใหญ่แล้วก็จะส่งให้ ป.ป.ช.ต่อไป และจะมีการแถลงสื่อมวลชนต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ท.เปิดเผยว่า พบว่ามีการทำตั๋วสัญญาปลอมหลายใบ ไม่ใช่แต่ได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารของรัฐแล้ว ยังมีการไปขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์อื่น อีก 3-4 ธนาคาร เมื่อรวมมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณหมื่นกว่าล้านบาท แต่ ป.ป.ท.จำเป็นต้องส่งเรื่องดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารของรัฐก่อน เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างนำไปสู่การขยายผลในส่วนของธนาคารเอกชนต่อไป
“จากการตรวจสอบมีตั๋วสัญญาการสั่งซื้อข้าวไปสวิตเซอร์แลนด์เป็นตั๋วหลายใบ ตรวจสอบเป็นตั๋วปลอมหมด เท่ากับไม่มีการซื้อก่อนจริง แปลว่าคุณได้เงินกู้ไปไม่ถูกต้อง ผู้บริหารที่มีอำนาจอนุมัติเงินต้องแก้ตัว ป.ป.ช.ให้ได้อนุมัติเงินไปได้อย่างไร เอากระดาษไม่กี่ใบแล้วให้ตั๋วสัญญาใช้เงินได้ไป 7.5 พันล้านบาทรวมกับธนาคารพาณิชย์หลายหมื่นล้านบาท” เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าว
พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า อนุกรรมการพิจารณาเสร็จสิ้นรู้ว่าจะต้องดำเนินคดีกับใครบ้างก่อนส่งให้ ป.ป.ช. แต่ละคนก็ถือว่ามีเครดิตในสังคม เรื่องอย่างนี้จะทำไม่ได้หรอกถ้าไม่ใช่ผู้บริหารแบงก์ เพราะเป็นเงินจำนวนมาก แม้จะนำเงินกู้ไปใช้บางส่วนจริงแต่ว่าการที่คุณปล่อยอนุมัติไปไม่ถูกต้อง เงินไม่ใช่ของตัวเอง เป็นเงินภาษีราษฎรที่กระทรวงการคลังสนับสนุน
เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวด้วยว่า ไม่ขอตอบว่าเขาจะนำเงินจำนวนมากนี้ไปใช้ทำอะไร แต่เมื่อมีการทำธุรกรรมดังกล่าว มี ป.ป.ท.ตรวจสอบชัดเจนแล้วถือว่าเป็นความผิดสำเร็จเมื่อส่ง ป.ป.ช.ถือว่าคดีนี้เกิดขึ้นจะเป็นมูลฐานความผิดการฟอกเงินด้วย
ทั้งนี้ คดีการออกตั๋วสัญญาซื้อขายข้าวไปสวิตเซอร์แลนด์เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 โดยพบว่ามีการทำตั๋วสัญญาปลอมจากบริษัทเอกชนซื้อขายข้าวชื่อดัง เพื่อค้ำประกันขอสินเชื่อธนาคารรัฐ และเอกชน ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับมาดำเนินคดีในส่วนการทำตั๋วสัญญาปลอม แต่การดำเนินคดีต่อผู้บริหารแบงก์รัฐที่กระทำผิดกลับเงียบหาย ทำให้ ป.ป.ท.ต้องนำเรื่องนี้ดำเนินการต่อก่อนส่งให้ ป.ป.ช.เร็ววันนี้