“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จัดรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” แจงแนวทางป้องกันน้ำท่วมตามโครงการ “ร่วมแรงไทย รักษาน้ำใสทุกคูคลอง” ดึงภาคเอกชน ประชาชนร่วมดูแลรักษาคูคลองเพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำ ยืนยันรัฐบาลพร้อมรับมือน้ำท่วม ส่วนภัยแล้งสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ขณะเดียวกันทำโครงการการ “เพาะปลูกป่า 5 ปี 800 ล้านต้นกล้า 80 พรรษาราชินี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (18 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ซึ่งเป็นการบันทึกเทปหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมโครงการแนวร่วมดูแลคูคลอง “ร่วมแรงไทยรักษาน้ำใสทุกคูคลอง” ณ วัดบัวแก้วศรัทธาธรรรม เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายธีรัตน์ รัตนเสวี เป็นผู้ดำเนินรายการ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตามคูคลองต่างๆ อุดตัน มีผักตบชวามาก ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการโดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนขุดลอกคลอง สำหรับภาครัฐได้มีการดำเนินการไปแล้ว แต่ปัญหาที่พบคือยังมีปัญหาเรื่องขยะที่อุดตันในบางพื้นที่ ซึ่งเป็นปัญหาเดิมๆ รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง โครงการ “ร่วมแรงไทยรักษาน้ำใสทุกคูคลอง” ขึ้นมา เพื่อให้ชุมชนที่อยู่ใกล้คูคลองช่วยกันดูแล โดยขอความร่วมมือจากภาคเอกชน รวมถึงภาครัฐเพื่อรณรงค์ให้เกิดจิตสำนึก ช่วยกันรักษาความสะอาด
“โครงการดังกล่าวเพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการรักษาความสะอาดคูคลองที่อยู่ใกล้ๆ โดยขอความร่วมมือทางภาคเอกชนมาช่วยเหลือ โดยเรียกว่า “สารวัตรคลอง” ซึ่งในแต่ละชุมชนก็ต้องช่วยกันดูว่า มีขยะอุดตันมากหรือไม่ แล้วร่วมมือช่วยกันรณรงค์รักษาความสะอาด ภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมอาจช่วยประชาสัมพันธ์ สนับสนุนในเรื่องอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ โดยตรงนี้มีคลองที่จะดำเนินการแล้ว 307 คลอง ได้ตัวเลขจากภาคเอกชนที่จะเข้าร่วมโครงการอีก 277 แห่ง ซึ่งอยากจะขอเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมมือไปพร้อมกับชุมชนด้วยกัน เพื่อรักษาน้ำในคูคลองให้ใสสะอาด”
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ปัญหาของประเทศไทยจะเห็นได้ว่า ในส่วนต้นน้ำต้นไม้มีจำนวนน้อยลงซึ่งไม่เพียงพอต่อการดูดซับอุ้มน้ำไว้ได้เท่าที่ควร ตรงนี้จึงมีโครงการการเพาะปลูกป่า 5 ปี 800 ล้านต้นกล้า 80 พรรษาราชินี เพื่อปลูกป่าทดแทน รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนหันมาดูแลผืนป่า ด้านกลางน้ำจะเป็นการเก็บน้ำซึ่งจะทำอย่างไรจะเก็บน้ำได้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด อย่างภาคอีสานเกิดภัยแล้งตรงนี้ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปแก้ปัญหาแล้ว อีกทั้งการซ่อมแซมเขื่อนประตูระบายน้ำที่เสียหายจากปีที่แล้วนั้น รัฐบาลได้สั่งดำเนินการให้ซ่อมทั้งหมด ส่วนพนังกั้นน้ำก็มีการสร้างแบบถาวร หากพื้นที่ไหนยังไม่สามารถเข้าไปถึงก็ให้สร้างฝายชะลอน้ำทดแทนไปก่อน
