“สดศรี” เชื่อ กกต.ออกระเบียบเงินเพิ่ม ขรก.ไม่มีปัญหา ทำตามกฎหมาย มีอำนาจชัด ให้ สตง.สอบแล้ว อ้างเหมือนเบี้ยขยันแทนโบนัส ยันไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง ยกศาลปกครองก็เคยทำ ชูแก้ปัญหาขายสำนวนคดี
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณี กกต.ออกระเบียบเงินเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพนักงาน กกต.ว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะ กกต.ออกระเบียบตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ในหน่วยงานอื่นๆ ก็ได้มีการออกระเบียบลักษณะนี้เช่นเดียวกัน เช่น ป.ป.ช. ศาลปกครอง ดีเอสไอ โดยก่อนออกระเบียบดังกล่าวก็มีการให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ซึ่งก็ไม่ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด
“ยืนยันว่า กกต.มีอำนาจในการออกระเบียบเรื่องนี้ได้ และจำเป็นต้องให้เงินเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อเป็นการเพิ่มสวัสดิการและตอบแทนให้กับพนักงาน กกต.นอกเหนือจากเงินเดือนที่พนักงานได้รับ เปรียบเสมือนเป็นเบี้ยขยันตอบแทน และเป็นขวัญกำลังใจการทำงานของพนักงานทุกคน เนื่องจากพนักงาน กกต.ไม่ได้รับโบนัส แต่การให้เงินเพิ่มประสิทธิภาพกับพนักงานฯ จะต้องประเมินผลงานทุกๆ 3 เดือน หากพบว่าพนักงานคนใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ก็จะไม่ได้รับเงินในส่วนนี้ทันที” นางสดศรีกล่าว
นางสดศรียังกล่าวยืนยันว่า กกต.ไม่เคยคิดที่จะปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่ตัวเองแต่อย่างใด แม้แต่การประชุมทุกครั้งก็ยังไม่มีเบี้ยประชุมตอบแทน และหากใครนำเรื่องเงินเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานไปยื่นฟ้องศาลปกครอง ก็ยินดี เพราะศาลปกครองก็ได้มีการเพิ่มเงินลักษณะเช่นนี้ให้แก่พนักงานมาแล้วเช่นกัน หากใครคิดว่ามีข้อโต้แย้งก็สามารถทำได้ พร้อมที่จะชี้แจงในรายละเอียด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันมีค่าครองชีพสูง ประชาชนทุกคนต้องแบกรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น หากเราไม่เพิ่มเงินให้แก่พนักงานก็อาจจะทำให้พนักงานที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และส่งผลให้มีการขายสำนวนการพิจารณาคดีของสำนักงาน กกต.ให้บุคคลภายนอกได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นปัญหาให้สำนักงาน กกต.ในภายหลังตามมา
ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวมอบนโยบายแก่ ผอ.กต.จังหวัด ในระหว่างการประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยกำชับให้ ผอ.กต.จว.ทำความเข้าใจต่อพนักงานในเรื่องเงินเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการสร้างความรักความสามัคคีในองค์กร ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมยืนยันว่าการออกระเบียบดังกล่าว กกต.ดำเนินการช้ากว่าองค์กรอื่นๆ และที่ผ่านมาพนักงาน กกต.ก็ไม่มีโบนัส พร้อมกันนี้ นายประพันธ์ก็ได้ยกตัวอย่างว่าได้รับบัตรสนเท่ห์ร้องเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องความขัดแย้งของ ผอ.กต.จว.กับลูกน้อง