“เรืองไกร” จอมขยัน ลุยยื่นดีเอสไอ ฟ้องฝ่ายผู้ร้องยับยั้งลุยวาระ 3 อ้างเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง แถมจี้สอบจริยธรรม 3 อดีตผู้ตรวจการฯ ส่ง “ธีรเดช” เป็น ส.ว.สรรหา ชี้ถูกร้องเหมือนคดี “เต้น”
วันนี้ (6 ส.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ตรวจสอบ ส.ส.และ ส.ว.กับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 ประกอบมาตรา 175 และอาจเข้าข่ายการกระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 104 ด้วย
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ยกคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กับคณะ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กับคณะ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พยานฝ่ายผู้ร้อง ที่กล่าวหาว่าคณะรัฐมนตรี ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และประธานรัฐสภา กระทำผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและมีโทษทางอาญา และมีผลให้การออกเสียงลงคะแนนในวาระ 3 ของรัฐสภาในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ต้องสะดุดหยุดลง ทั้งหมดเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่อาจเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่สำคัญ จึงขอให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินการสืบสอบสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า และยังยื่นเรื่องให้นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบพฤติกรรมทางจริยธรรมของ นายปราโมทย์ โชติมงคล นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาส และนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดินสมัยนั้น ที่ส่งชื่อ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.ในนามสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งที่อยู่ระหว่างถูกอัยการสั่งฟ้องเป็นจำเลยในคดีออกคำสั่งขึ้นเงินและค่าตอบแทนให้ตัวเอง และที่สุดศาลอาญาได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่ากระทำผิดจริง
นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า เมื่อนำมาเทียบเคียงกับการวางมาตรฐานที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบกรณีนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ดังนั้น การเสนอชื่อ พล.อ.ธีเดช เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. น่าจะเป็นการขัดต่อจริยธรรมของผู้ตรวจการแผ่นดินเสียเอง ซึ่งระเบียบผู้ตรวจการแผ่นดินว่าด้วยประมวลจริยธรรมของผู้ตรวจการแผ่นดินและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ข้อ 19 วรรคสาม ระบุว่ากรณีมีการร้องเรียนหรือปรากฏเหตุว่าผู้ตรวจการแผ่นดินคนหนึ่งคนใดประพฤติปฏิบัติฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินที่เหลืออยู่เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ จึงขอให้ตรวจสอบว่าทั้งหมดกระทำผิดระเบียบผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ข้อ 6 ข้อ 10 และข้อ 18 หรือไม่
