ส.ส.เมืองคอน ปชป.ซัดเพื่อไทยท้ายื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองประกบ ชี้เปล่าประโยชน์เพราะมุบมิบดันเข้าสภา มัดมือชกผ่านวาระ 1 ไปแล้ว ยันไม่โง่พอที่จะเป็นตัวประกอบ อัดไม่ควรเล่นลิ้นสร้างภาพ ส่วนการแถลงผลงาน 1 ปีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชี้มีแต่ความว่างเปล่า แนะถ้ามีผลงานแค่นี้ทำแค่ใบปลิวเอสี่แจกยังดีกว่า ถ้าคิดรวมเล่มควรทำผลงานชิ้นโบว์ดำแยกออกมาด้วย
วันนี้ (5 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองประกบร่างของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่รู้กฏเกณฑ์การเสนอญัตติเข้าสู่ที่ประชุมสภา และไม่รู้ข้อบังคับการประชุม เพราะร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอบรรจุให้สภาพิจารณาในวาระที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะให้ยื่น พ.ร.บ.ปรองดองประกบร่างของพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร
“อยากถามว่าการรีบเร่งหรือลุกลี้ลุกลนผลักดัน พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสภา ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายอื่นๆ ได้มีโอกาสพิจารณาตรวจสอบหรือนำเสนอร่างขึ้นมาด้วย เป็นการมุบมิบทำในหมู่พวกพ้องและพรรคพวกตัวเอง เมื่อเจอกระแสต่อต้านจากสังคมภายนอกจนไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ก็ต้องถอยกลับมาทบทวนใหม่ และพยายามซื้อเวลาโดยการตั้งเงื่อนไขเปิดโอกาสให้มีการประชาเสวนาขึ้นมา หากรัฐบาลและเพื่อไทยจริงใจที่จะรับฟังปัญหาทุกฝ่ายจริง ทำไมไม่จัดเวทีประชาเสวนาตามข้อเสนอของสภาบันพระปกเกล้า เพื่อให้ได้ข้อยุติแล้วนำมาร่างเป็น พ.ร.บ.เพื่อพิจารณาในสภาต่อไป” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า การเร่งรีบยื่น พ.ร.บ.ปรองดองดังกล่าวเป็นการมัดมือชกอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะให้พรรคฝ่ายค้านมายื่นร่าง เป็นแค่ตัวประกอบเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่ควรจะเล่นลิ้นหรือสร้างภาพให้เกิดความชอบธรรมกับตัวเอง สิ่งที่ทำได้ขณะนี้เพื่อเป็นหลักประกันไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคม รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องเรียกเจ้าของญัตติมาพูดคุยและถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับนี้ออกจากวาระการประชุมเพียงสถานเดียว มิฉะนั้นบ้านเมืองก็จะเกิดความขัดแย้งจนถึงขั้นแตกหักอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ตกหลุมพรางเพื่อไทยที่พยายามเรียกร้องให้ยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองขึ้นมาแข่งขัน เพราะเป็นที่รู้อยู่ว่าเสียงข้างมากในสภาเป็นของพรรคเพื่อไทยและฝ่ายรัฐบาล และได้ใช้หลักเสียงข้างมากลากไปตลอดเวลาเห็นจากการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่แพ้มติพรรคฝ่ายค้านในการพิจารณาวาระสอง ไม่ทันชั่วข้ามคืนก็กลับพลิกมติเพื่อเอาชนะคะคานจนได้โดยไม่คำนึงถึงระเบียบข้อบังคับการประชุมแต่อย่างใด
นายเทพไทยังกล่าวถึงการแถลงผลงานครบ 1 ปีของรัฐบาลในช่วงปลายเดือนสิงหาคมว่า เป็นสิทธิ์และหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องแถลงผลงานต่อประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ แต่ยังสงสัยว่าผลงานที่จะแถลงว่ามีมากน้อยเพียงใด เพราะหลายฝ่ายกำลังรอคอยว่า 1 ปีที่ผ่านมามีแต่ความว่างเปล่า สถานการณ์การเมืองก็ย่ำอยู่กับที่ นโยบายที่แถลงไว้ตอนหาเสียงก็ไม่สามารถที่จะผลักดันให้เป็นจริงได้ รัฐบาลชุดนี้จะหยิบยกประเด็นอะไรขึ้นมาแถลงเป็นงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ค่าแรง 300 ร้อยบาทต่อวัน ปริญญาตรีเงินเดือน 15,000 บาท ก็ไม่สามารถทำได้จริง การจำนำพืชผลการเกษตรก็ล้มเหลวเมื่อเทียบกับประกันราคาสินค้า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคก็เป็นเรื่องเก่าที่หยิบมาโฆษณาใหม่ เรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุก็เป็นการต่อยอดนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์
“ถ้ามีผลงานเพียงแค่นี้ที่จะแถลงต่อประชาชนก็ควรที่จะทำเป็นแผ่นปลิวกระดาษเอสี่ แผ่นเดียวแจกจ่าย เพราะไม่สามารถแถลงผลงานรวมเล่มได้ และอยากแนะนำหากไม่มีผลงานมากมายพอที่จะรวมเล่มก็ควรจะมีภาคผนวกแถลงผลงานที่ล้มเหลวไม่สามารถที่จะปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จได้และควรแยกออกเป็นผลงานโบแดง กับโบดำเพื่อให้ประชาชนแยกแยะและเปรียบเทียบได้ชัดเจน และควรที่จะยอมรับความจริงและสารภาพบาปต่อประชาชนในเรื่องความล้มเหลวของรัฐบาลที่ประกาศไว้ตอนหาเสียง เช่น การกระชากค่าครองชีพ โดยลดราคาน้ำมัน สินค้าแพงทั้งแผ่นดิน สินค้าการเกษตรตกต่ำทุกตัว การแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่ทำความสูญเสียให้บ้านเมืองนับล้านล้านบาท ปัญหาความรุนแรงภาคใต้ที่เกิดเหตุรายวันให้ประชาชนได้ทราบด้วย เพื่อให้การแถลงผลงานของรัฐบาลครบด้วยทั้งด้านบวกและลบ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ประชาชนเจ้าของประเทศ” นายเทพไทกล่าว