“ธงทอง” เซ็นคำสั่งตั้ง คกก.สอบรุกป่าวังน้ำเขียว-ปัดเอี่ยวเด้ง “ดำรง”

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านรุกป่าวังน้ำเขียว ร้องสอบสวนให้เสร็จภายใน 15 วัน ส่วนข่าวโยกอธิบดีกรมอุทยานฯ ยืนยันไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการชุดนี้

วันนี้ (1 ส.ค.) นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติมอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีราษฎรและผู้ ประกอบกิจการที่พักแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ร้องเรียนกรณีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ว่า หลังจากที่ได้รับทราบเรื่องจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก็ได้ประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง และลงคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการในวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวมี นายพันธุ์ชัย วัฒนชัย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายกมล ธรรมเสรีกุล อธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญาธนบุรี นายสัจจา เขมะจารุ เป็นกรรมการ และนายมงคล แสงหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขาการ

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสาธารณะ ครม.จึงได้มีมติกำกับมาด้วยว่าหากมีความชัดเจนให้นำเสนอ ครม.โดยด่วน ดังนั้น ตนจึงได้ขอให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วันทำการ ซึ่งประธานคณะกรรมการก็ได้รับปากว่าจะเร่งดำเนินการตามกรอบเวลาให้ได้ ฉะนั้น ต้นสัปดาห์คงจะมีการเร่งประชุมกัน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวจะโยกย้าย นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ เพราะเรามีหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งดังกล่าวได้ระบุว่าด้วยคณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2555 ได้ มีมติมอบหมายให้ปลัดสำนักนายกฯรับไปจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีราษฎร และผู้ประกอบกิจการที่พักแก่นักท่องเที่ยวในพื้นทีอำเภอวังเขียว จังหวัดนครราชสีมา ร้องเรียนกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดำเนินการรื้อถอน สิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติอำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ให้ชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมแก้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย แล้วให้นำผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป