เกษตรกรร้อง ปชป.ช่วย ถูกโรงสีข้าวโกงกว่า 16 ล้านบาทจากผลพวงโครงการรับจำนำข้าว หลังเกษตรกรส่งขายแล้วปิดโรงสีหนี “หมอวรงค์” จี้รัฐใช้เงินกองทุนยุติธรรมจ่ายให้เกษตรกรก่อนระหว่างรอการตัดสินคดี พวก “ปู” อย่ามัวแต่ “ตะแล๊ดแต๊ดแต๋” หันมาใส่ใจปัญหาชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ก.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รมช.พาณิชย์เงา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเกษตรกรจากพิษณุโลกเกือบ 20 คน แถลงถึงปัญหาเกษตรกรที่ถูกโรงสีโกงในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล
นายยุพราชกล่าวว่า ปัญหาเกิดตั้งแต่ พ.ค. 2555 โดยเกษตรกรมาพบตนเพื่อขอความเป็นธรรมจากกรณีที่นำข้าวไปขายให้โรงสีแห่งหนึ่งที่เคยเข้าร่วมรับจำนำข้าวนาปีและอ้างว่าจะได้เข้าร่วมในนาปรังอีก เป็นการชวนเชื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด เกษตรกรจึงขายข้าวให้กับโรงสีนี้ ซึ่งที่อำเภอหล่มสักมีผุ้เสียหาย 127 ราย อ.เมือง 26 ราย รวม 153 ราย ความเสียหาย 16 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ เมื่อนำข้าวไปขายโรงสีแล้ว ระยะเวลาผ่านไปเกษตรกรจึงไปทวงถามเงินแต่โรงสีบ่ายเบี่ยงเลื่อนนัด จึงไปตรวจสอบโกดังเพื่อเอาข้าวเปลือกคืนแต่ไม่มีข้าวเปลือกอยู่แล้ว ซึ่งความผิดพลาดตรงนี้ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ เพิ่งจะมีหนังสือแจ้งเตือนเกษตรกรว่าให้นำข้าวไปจำนำกับโรงสีที่เข้าโครงการในวันที่ 22 มิ.ย. 55 แต่ เหตุเกิดกับประชาชนตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 55 เป็นต้นมา ดังนั้น การเตือนไม่ให้นำข้าวเปลือกไปขายจึงไม่เป็นผลเพราะเป็นการแจ้งอย่างล่าช้า ทำให้เกษตรกรถูกโกง ที่ผ่านมาทางโรงสีนัดจะจ่ายเงินในวันที่ 16 ก.ค. 55 เลื่อนมาเป็นวันที่ 20 ก.ค. 55 ให้ผู้ว่าฯ เป็นพยาน แต่ทางโรงสีก็ไม่ไปจ่ายเงินตามนัด เกษตรกรทั้งหมดจึงถามทางจังหวัดว่าจะช่วยอย่างไร เพราะมีผู้เดือดร้อนจำนวนมากและทั้งหมดเป็นผลพวงจากช่องว่างนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลที่ทำให้เกิดการทุจริตและทำให้ชาวนาถูกหลอก โดยเห็นว่าจังหวัดจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะผู้ว่ารากชารจังหวัดเป็นประธานอนุกรรมการติดตามการจำนำข้าว จึงต้องติดตามโครงการและรักษาผลประโยชน์ให้กับเกษตรกรไม่ใช่ปกป้องผลประโยชน์นายทุนหรือโรงสี แม้ว่าในขณะนี้ตำรวจจะออกหมายจับเจ้าของโรงสีแล้ว แต่อยากให้รัฐบาลช่วยดูแลเกษตรกรในเรื่องการฟ้องร้อง และเยียวยาให้กับเกษตรกรที่ถูกหลอกด้วย
ด้าน นพ.วรงค์กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เคยมีการช่วยเหลือด้านคดีให้แก่เกษตรกรที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ด้วยการจ่ายเงินจากกองทุนยุติธรรมให้แก่เกษตรกรไปก่อน ในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร จึงอยากให้รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการเช่นเดียวกัน อย่าปล่อยให้ชาวบ้านต้องดำเนินคดีเอง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะช่องว่างจากโครงการจำนำข้าว และกลไกของรัฐบาลที่ไม่ดูแลจนชาวนาถูกหลอก ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะนำเกษตรกรทั้งหมดไปพบนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเหลือ
“ผมคิดว่านายกฯ เลิกเดินเฉิดฉายไปมา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตะแล๊ดแต๊ดแต๋ได้แล้ว หันมาเอาใจใส่ปัญหาชาวบ้านและแก้ไขให้อย่างจริงจังดีกว่า รัฐบาลนำเงินจากกองทุนยุติธรรม มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้ว 111 ล้านบาทเพื่อไปประกันตัวคนเสื้อแดงที่ทำผิดในคดีอาญาได้ ก็ควรนำเงินจากกองทุนยุติธรรมมาช่วยเหลือเกษตรกรด้วย”
ด้านตัวแทนเกษตรกร อ.หล่มสัก กล่าวทั้งน้ำตาว่า “พวกเราลำบากมากทำนาข้าว มีคนชักชวนว่าโรงสีนี้เข้าโครงการจำนำข้าว ก็ถามไปว่าจะได้เงินไหม เพราะต้องการใช้เงิน เขาก็บอกว่าอย่างนานไม่เกินอาทิตย์ก็รอ ข้าวก็เยอะมาก แต่ก็ไม่ได้เงินตามที่บอก ตอนนี้ต้องไปกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน ไม่กู้ก็ไม่มีเงินใช้ในชีวิตประจำวัน และไม่มีทุนที่จะปลูกข้าวต่อ จะให้ชาวนาทำยังไง หมดเนื้อหมดตัวเลย ถ้าไม่สุดๆ ไม่มาหรอกค่ะ ลำบากมากทำนากว่าจะได้ข้าว ไหนจะค่าเช่า ค่าปุ๋ย ชาวนาซื่อจริงๆ นะคะ เราเดือดร้อนเราถึงมา”
ขณะที่ตัวแทนเกษตรกรอีกรายหนึ่ง กล่าวทั้งน้ำตาเช่นเดียวกันว่า ในยุครัฐบาลที่แล้วไม่มีปัญหาถูกหลอก เนื่องจากเป็นโครงการประกันรายได้ ไม่ต้องนำข้าวไปจำนำกับโรงสี แต่จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีตามส่วนต่างที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งในการนำข้าวไปจำนำแม้ว่ารัฐบาลจะกำหนดให้ 15,000 แต่เมื่อไปจำนำจริงก็ได้แค่ 11,000 บาทกว่าเท่านั้น และยังถูกหลอกด้วย ถ้าเป็นการประกันเราคงไม่ถูกหลอกจนหมดตัวแบบนี้”