โฆษกผู้ตรวจการแผ่นดิน คาดเจ้าหน้าที่ชงหลักฐาน “มาร์ค” หนีทหารจาก กห.ให้ “ศรีราชา” ได้ใน 2 วัน โยนเจ้าตัวนำเข้าที่ประชุมหรือไม่ ยันไม่ใช่หน้าที่ไปสอบว่าหนีจริงหรือไม่ เหตุผู้ร้องร้องแค่สอบรัฐมนตรีละเลยปฏิบัติหน้าที่ เมินเชิญ “อภิสิทธิ์” แจง ระบุไม่กดดัน
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีความคืบหน้ากรณีคำร้องของนายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของรมว.กห ในการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้เอกสารปลอมในการเข้ารับราชการทหารว่า ภายใน 1-2 วันนี้ทางเจ้าหน้าที่คงจะได้เสนอรายละเอียดที่รมว.กห.ประกอบกับหลักฐานต่างๆ ให้แก่นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดินที่ดูแลเกี่ยวกับงานด้านการทหาร ได้พิจารณา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับนายศรีราชา ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าขอความเห็นจากที่ประชุมผู้ตรวจฯ หรือไม่ หรือจะมีดุลยพินิจแจ้งไปยัง รมว.กลาโหมเลย โดยคาดสัปดาห์นี้ผู้ตรวจฯ ก็คงมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา
ทั้งนี้ นายรักษเกชากล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวผู้ตรวจการฯ คงไม่ลงไปตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์ มีการหนีทหารตามที่มีการกล่าวหาจริงหรือไม่ แม้ว่า รมว.กลาโหมจะส่งหลักฐานต่างๆ ประกอบคำชี้แจงมาเป็นจำนวนมากก็ตาม เนื่องจากผู้ร้องๆ เพียงว่า รมว.กลาโหมละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหลังจากผลสอบพบว่านายอภิสิทธิ์มีปัญหา ดังนั้น ประเด็นที่ผู้ตรวจจะพิจารณาจึงเป็นกรณีที่ว่า รมว.กลาโหมปฏิบัติหรือละเลยการปฏิบัติตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ ซึ่งดุลพินิจของผู้ตรวจจะไม่เป็นการไปละเมิดผู้เสียหายอย่างแน่นอน
“ดุลพินิจของผู้ตรวจฯในเรื่องนี้จะไม่ไปละเมิดคุณอภิสิทธิ์ที่กำลังถูกกล่าวหาในขณะนี้แน่นอน เพราะผู้ตรวจฯ จะดูเฉพาะว่าตามคำชี้แจงของ รมว.กลาโหมที่ส่งมาเข้ามานั้น รมว.กลาโหมได้ปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติ หรือไม่ตามที่ผู้ร้องเขากล่าวหามาหรือไม่ จึงไม่ต้องเชิญนายอภิสิทธิ์หรือใครมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะผู้ร้องไม่ได้ร้องนายอภิสทธิ์ ส่วนว่าคุณอภิสิทธิ์จะหนีทหารจริงหรือไม่จริง เป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมที่ต้องทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และหากคุณอภิสิทธิ์ เห็นว่าถูกละเมิดก็สามารถฟ้องร้องเป็นคดีได้ไม่เกี่ยวกับผู้ตรวจ” นายรักษเกชากล่าว
เมื่อถามว่าผู้ตรวจเกรงหรือไม่ว่าจะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และรู้สึกกดดันหรือไม่ นายรักษเกชากล่าวว่า ไม่รู้กดดัน และก็ไม่รู้ว่าใครโยงแต่ผู้ตรวจไม่ได้โยง เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวกับการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งตามกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจที่ต้องเข้าไปดูแล
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีความคืบหน้ากรณีคำร้องของนายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของรมว.กห ในการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้เอกสารปลอมในการเข้ารับราชการทหารว่า ภายใน 1-2 วันนี้ทางเจ้าหน้าที่คงจะได้เสนอรายละเอียดที่รมว.กห.ประกอบกับหลักฐานต่างๆ ให้แก่นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดินที่ดูแลเกี่ยวกับงานด้านการทหาร ได้พิจารณา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับนายศรีราชา ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าขอความเห็นจากที่ประชุมผู้ตรวจฯ หรือไม่ หรือจะมีดุลยพินิจแจ้งไปยัง รมว.กลาโหมเลย โดยคาดสัปดาห์นี้ผู้ตรวจฯ ก็คงมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา
ทั้งนี้ นายรักษเกชากล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวผู้ตรวจการฯ คงไม่ลงไปตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์ มีการหนีทหารตามที่มีการกล่าวหาจริงหรือไม่ แม้ว่า รมว.กลาโหมจะส่งหลักฐานต่างๆ ประกอบคำชี้แจงมาเป็นจำนวนมากก็ตาม เนื่องจากผู้ร้องๆ เพียงว่า รมว.กลาโหมละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหลังจากผลสอบพบว่านายอภิสิทธิ์มีปัญหา ดังนั้น ประเด็นที่ผู้ตรวจจะพิจารณาจึงเป็นกรณีที่ว่า รมว.กลาโหมปฏิบัติหรือละเลยการปฏิบัติตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ ซึ่งดุลพินิจของผู้ตรวจจะไม่เป็นการไปละเมิดผู้เสียหายอย่างแน่นอน
“ดุลพินิจของผู้ตรวจฯในเรื่องนี้จะไม่ไปละเมิดคุณอภิสิทธิ์ที่กำลังถูกกล่าวหาในขณะนี้แน่นอน เพราะผู้ตรวจฯ จะดูเฉพาะว่าตามคำชี้แจงของ รมว.กลาโหมที่ส่งมาเข้ามานั้น รมว.กลาโหมได้ปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติ หรือไม่ตามที่ผู้ร้องเขากล่าวหามาหรือไม่ จึงไม่ต้องเชิญนายอภิสิทธิ์หรือใครมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะผู้ร้องไม่ได้ร้องนายอภิสทธิ์ ส่วนว่าคุณอภิสิทธิ์จะหนีทหารจริงหรือไม่จริง เป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมที่ต้องทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และหากคุณอภิสิทธิ์ เห็นว่าถูกละเมิดก็สามารถฟ้องร้องเป็นคดีได้ไม่เกี่ยวกับผู้ตรวจ” นายรักษเกชากล่าว
เมื่อถามว่าผู้ตรวจเกรงหรือไม่ว่าจะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และรู้สึกกดดันหรือไม่ นายรักษเกชากล่าวว่า ไม่รู้กดดัน และก็ไม่รู้ว่าใครโยงแต่ผู้ตรวจไม่ได้โยง เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวกับการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งตามกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจที่ต้องเข้าไปดูแล
