กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจ หากให้ลงประชามติวันนี้ ประชาชนร้อยละ 63 ไม่สนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ สนับสนุนแค่ร้อยละ 19 ขณะที่ร้อยละ 45 หนุนแก้รายมาตรา และให้แก้ ม.68 ให้มีความชัดเจน เผยมีประชาชนเพียงร้อยละ 9.3 ที่เห็นว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาต้องแก้ทั้งฉบับ
วันที่ 21 ก.ค. ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 22 จังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง“ความคิดเห็นประชาชนต่อการปรับแก้รัฐธรรมนูญปี 2550” โดยเก็บข้อมูลกับผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1,265 คน ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ค.พบว่า เมื่อถามประชาชนว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ฉบับปัจจุบันมีปัญหาหรือไม่ ประชาชนร้อยละ 45.4 คิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบางมาตราอาจมีปัญหาจึงอยากให้แก้เป็นรายมาตราไป รองลงมาร้อยละ 25.2 คิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่ได้มีปัญหาจึงไม่จำเป็นต้องแก้ และมีเพียงร้อยละ 9.3 เท่านั้นที่ระบุว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีปัญหาและต้องแก้ทั้งฉบับ
สำหรับความคิดเห็นประชาชนที่มีต่อการปรับแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสองให้มีความชัดเจนขึ้น จากเดิมที่ระบุว่า “...ผู้ที่ทราบการกระทำ (เพื่อการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว…” พบว่า ประชาชนร้อยละ 45.4 เห็นด้วยให้มีการปรับแก้ไขมาตราดังกล่าว ในจำนวนนี้ ร้อยละ 27.8 เห็นว่าใจความสำคัญควรอยู่ในลักษณะ “ให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ก่อนที่อัยการสูงสุดจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป” ขณะที่ร้อยละ 33.6 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยให้มีการปรับแก้มาตราดังกล่าว และร้อยละ 21.1 ไม่ออกความคิดเห็น
เมื่อถามว่าหากวันนี้เป็นวันลงประชามติเพื่อถามว่า “ท่านจะสนับสนุนให้มีการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่” พบว่า ประชาชนร้อยละ 63.5 ไม่สนับสนุนให้มีการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และมีเพียงร้อยละ 19.5 ที่สนับสนุนให้มีการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ในขณะที่ร้อยละ 17.0 ไม่แสดงความเห็น
ส่วนความคิดเห็นที่มีต่อแนวคิดในการจัดตั้งองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญที่จะให้มาทำหน้าที่แทนศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนร้อยละ 49.8 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการจัดตั้งองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และร้อยละ 26.6 เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว ในขณะที่ร้อยละ 23.6 ไม่แสดงความเห็น