ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัย “นายกฯ ปู” ไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ไป ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ และมีผลประโยชน์ทับซ้อนโครงการบ้านหลังแรก ไม่ผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการวินิจฉัยของคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีมีผู้ร้องเรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 2 กรณี คือ ไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไปทำธุระส่วนตัวที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีเป็นการกระทำที่อาจฝ่าฝืน หรือไม่เป็นไปตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 เพราะในการประชุมวันดังกล่าวยังไม่มีประเด็นที่นายกรัฐมนตรีต้องชี้แจง เมื่อมีงานที่ต้องรับผิดชอบเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน จึงเข้าร่วมประชุมไม่ได้ และเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้มาเข้าร่วมประชุมตามปกติ จึงไม่ถือว่าขาดการประชุม
อีกทั้งเอกสารหลักฐานคำร้องเรียนไม่ปรากฏว่าเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ หรือนำไปสู่ประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใด และไม่ส่อไปในทางชู้สาว เพราะมีผู้ร่วมเดินทางไปหลายคน ประกอบกับเป็นสถานที่เปิดเผย จึงวินิจฉัยให้ยุติการพิจารณา
ส่วนกรณีปฏิบัติผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีผลประโยชน์ทับซ้อน (โครงการบ้านหลังแรก) ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่า ไม่เป็นการกระทำที่ขัดหรือฝ่าฝืนต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 เพราะนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากตำแหน่งบริหารของบริษัท เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แล้ว และไม่ได้รับประโยชน์จากการดำเนินธุรกิจ โดยสถานะทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีและบริษัทจึงไม่เกี่ยวข้องกัน อีกทั้งโครงการบ้านหลังแรกเป็นโครงการของกระทรวงการคลัง ที่ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อบ้านได้ด้วยตนเองโดยอิสระ ไม่สามารถบังคับให้ซื้อบ้านจากบริษัทเป็นการเฉพาะได้
ส่วนการถือหุ้นของนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 0.85 ก็ไม่เป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามกฏหมายกำหนดว่ารัฐมนตรีจะถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จึงให้ยุติการพิจารณา ทั้งนี้ ได้มีหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยถึงนายกฯและผู้ร้องทั้ง 2 กรณีแล้ว