โจกแดงห้ามสาวกบุกศาลรัฐธรรมนูญพรุ่งนี้ เล็งประกาศแผนต่อหลังอ่านคำวินิจฉัยเสร็จ อ้างเฉยจ้อคนกองทัพเอี่ยวไฟใต้หางบเข้ากระเป๋า พ่วงสไนเปอร์ยิงก๊วนเผาเมืองตายในเวที กมธ.วิฯ งบปี 56 ทำประชาธิปัตย์ทนฟังไม่ได้วอล์กเอาต์พ้นห้องประชุม โวยเวลาพูดกลับไม่ฟัง แถมปิดปากคนอื่น จี้บิ๊กท็อปบูตขอโทษประชาชน
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.15 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง แถลงว่า กรณีที่มีสถานีวิทยุคลื่นหนึ่งที่ปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ไปชุมนุมที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีการอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 13 ก.ค.นั้น ถ้าเป็นคนเสื้อแดงจริงจะต้องไม่ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ คนที่อยากออกมาก็ให้ไปรวมตัวที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว หรือบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งมีกลุ่มแท็กซี่คนเสื้อแดงชุมนุมอยู่ ดังนั้นคนเสื้อแดงอย่าไปหลงเชื่อ หากไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้วมีการก่อสถานการณ์ คนเสื้อแดงก็จะตกเป็นเหยื่อได้ จึงขอให้ฟังแกนนำหลักอย่างเดียว และในวันที่ 13 ก.ค. หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยแล้วคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในเวลา 17.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงก็จะแถลงข่าวต่อ เพื่อชี้แจงต่อสาธารณชนว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อไปหรือไม่
นายก่อแก้วยังกล่าวถึงกรณีในการประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ซึ่งในวันนี้ที่มีผู้นำเหล่าทัพ พร้อมเสนาธิการทหารเข้าร่วมชี้แจง โดยกรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้พูดหลายเรื่อง และมีความห่วงใยที่ฝากให้กองทัพดูแล รวมทั้งยังได้พาดพิงถึงกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งตนก็พยายามรับฟังอย่างอดทน และเมื่อถึงคราวที่ตนพูดบ้างก็ได้ฝากความห่วงใยถึงกองทัพโดยเรื่องที่เป็นเชิงลบ คือ คนไทยบางกลุ่มยังสงสัยว่าคนในกองทัพบางคนเข้าไปร่วมสร้างสถานการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้เพื่อของบประมาณเพิ่มเติม เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จึงอยากให้ทางกองทัพตรวจสอบข้อมูลตรงนี้เพื่อให้สังคมรับทราบ นอกจากนี้ ประชาชนยังติดใจเหตุการณ์เมื่อปี 2553 โดยในช่วง 10 เม.ย. อาจมองว่าเป็นสถานการณ์พาไป แต่ในช่วง 13-19 พ.ค. ถือเป็นเหตุการณ์ที่โหดเหี้ยมที่มีการยิงสไนเปอร์ใส่ประชาชน ซึ่งกรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ก็รับฟังไม่ได้ กลับให้ตนหยุดพูด พยายามปิดปากไม่ให้พูดต่อ สุดท้ายนายพิเชษฐก็นำทีม ส.ส.พรรคประชิปัตย์วอล์กเอาต์จากห้องประชุม จนทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ต้องสั่งพักการประชุม ซึ่งทำให้ตนต้องไประดม ส.ส.ที่เข้าประชุมอยู่ในห้องอนุกรรมาธิการมาร่วมประชุมต่อ
“สุดท้ายสิ่งที่ผมอยากพูด คือ เวลาท่านพูดผมฟัง แต่เมื่อผมพูดแสดงความกังวลท่านกลับไม่รับฟัง กลับบอกว่าเรื่องนี้ยังไม่รู้ใครผิดใครถูก และกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของชายชุดดำ ซึ่งประชาชนก็ไม่เชื่อเพราะถ้าประชาชนเชื่อพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้กลับมาเป็นรัฐบาลแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากบอกพรรคประชาธิปัตย์ว่าเวลาใช้อำนาจในการก่อเหตุก็ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา และเมื่อผลออกมากลับไม่แสดงความรับผิดชอบ กลับมาปิดปากคนวิพากษ์วิจารณ์อีก ทั้งนี้ยังได้ฝากไปยังผู้นำเหล่าทัพด้วย แม้ได้มีเจตนา หรือรับคำสั่งผู้บังคับบัญชา เหตุการณ์ครั้งนี้อย่างน้อยก็ควรออกมาขอโทษประชาชน การปรองดองจะได้เดินหน้าต่อไป ซึ่งจะทำหรือไม่ก็แล้วแต่กองทัพ” นายก่อแก้วกล่าว
