xs
xsm
sm
md
lg

“นพเหล่” ขู่ศาล รธน.ตัดสินไม่ดีแดงลุกฮือแน่ แบไต๋ 4 ข้อหักล้าง ม.68 แถไม่ล้มล้างมีเซฟตี้คัต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
ทนายแม้วเตรียม 4 ประเด็นชี้แจงศาล รธน.อ้างคำเดิมไม่มีอำนาจรับคำร้อง ให้ผ่านอัยการสูงสุดก่อน แถไม่ล้มล้างการปกครอง เพราะร่างมีตัวเซฟตี้คัต แถม ส.ส.-ส.ว.มีสิทธิ์ชำเราได้ ด่ากราดศาลใช้ผลพวงรัฐประหารยุบพรรค-ปลด “ออหมัก” พ้นเก้าอี้ ขู่ตุลาการหัดชั่งใจ อยากให้บ้านเมืองเป็นแบบไหน ชี้ เสื้อแดงความอดทนมีจำกัด “ประชา” โต้กลับ “ชวนนท์” เอาแต่ช่วงชิงอำนาจคนอื่น ขู่ถ้าราวี “ปู” ถ้าผิดกฎหมายเตรียมฟ้องแน่

วานนี้ (1 ก.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะทำงานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาตัดสินร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 5-6 ก.ค.ว่า พรรคเพื่อไทยได้เตรียมแนวทางต่อสู้ไว้ 2 ทางหลัก คือ การให้ข้อมูลกับศาลไปตามกระบวนการ และให้ข้อมูลต่อนักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ตีแผ่ให้เห็นว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญทุกประการ สำหรับแนวทางที่จะชี้แจงต่อศาล คือ 1.ชี้ประเด็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องในเรื่องดังกล่าว จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนของอัยการสูงสุด ในอดีต นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ก็เคยยื่นเรื่องร้องเรียนในลักษณะนี้ แต่ศาลเป็นผู้บอกเองว่าต้องผ่านอัยการสูงสุดก่อน

2.การกระทำของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เขียนระบุไว้ชัดเจน เป็นตัวเซฟตี้คัต อีกทั้งเมื่อร่างเสร็จแล้วยังมีกระบวนการส่งมอบให้ประชาชนพิจารณาอีกชั้นหนึ่งด้วย 3.เจตนารมณ์ของมาตรา 68 ต้องการให้เรื่องผ่านกระบวนการของอัยการสูงสุดก่อน นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ระบุไว้อย่างชัดแจ้ง และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็ต้องตีความไปในแนวทางเช่นนั้น 4.การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของ ส.ส.และ ส.ว.ในบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นสิทธิที่คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ

นายนพดล กล่าวว่า ต้องจับตาดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินอย่างไร ซึ่งมันจะมีผลต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในอนาคตอย่างแน่นอน ถ้าตัดสินถูกต้องบ้านเมืองก็เรียบร้อย แต่ถ้าไม่ยึดตามตัวบทกฎหมาย บ้านเมืองก็จะไม่เรียบร้อย นำไปสู่ความขัดแย้งของสังคม ที่ผ่านมา การตัดสินลงโทษ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี การยุบพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน โดยใช้กฎหมายที่เป็นผลพวงจากรัฐประหาร มีผลย้อนหลัง มันได้สร้างความไม่พอใจ เคลือบแคลงใจให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนเสื้อแดง ฉะนั้น ก็คิดว่า ศาลรัฐธรรมนูญควรใช้โอกาสนี้ตัดสินไปตามความถูกต้อง สำหรับฝ่ายร้องคัดค้านที่มีการเปิดตัวพยานออกมานั้น ก็เชื่อว่า พยานทุกคนต้องให้การอย่างตรงไปตรงมา เพราะความผิดฐานให้การเท็จมันก็มีอยู่ ถ้าเล่นกันตามกติกา ไม่แหกกฎ ออฟไซด์ก็เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็อยากให้พยานทุกท่านลองช่างใจด้วยว่าอยากให้บ้านเมืองเป็นแบบไหน

“เราได้ทำการประเมินเหตุการณ์ทุกทางตั้งแต่แง่ดีที่สุด ถึงร้ายที่สุด แต่ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง ก็คิดว่า ศาลก็คงเป็นห่วงบ้านเมืองเหมือนเรา ประเทศเราบอบช้ำมาเยอะ ประชาชนถูกกระบวนการยุติธรรมย่ำยีมาก็มาก ความอดทนก็คงจะมีขีดจำกัดเหมือนกัน อย่างไรก็ตามยังดีใจที่นักวิชาการต่างๆ ไม่ว่าจะอิงอยู่กับเสื้อสีไหน ล้วนเห็นด้วยกับกรณีนี้ว่ามันไม่เข้าเงื่อนไขมาตรา 68” นายนพดล กล่าว

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ขู่จะตามราวี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ลาออก ให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศแทน หากแก้ไขปัญหาความปรองดองไม่ได้ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ถนัดกับการช่วงชิงอำนาจคนอื่น ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าอยากได้อำนาจก็ต้องไปเลือกตั้ง หรือเป็นเพราะเลือกตั้งแพ้ตลอด จึงออกมาพูดจาสามหาวแบบนี้

“พรรคประชาธิปัตย์อย่าคิดว่า จะใช้อำนาจนอกระบบผลักดันตัวเองให้มาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ปล้นอำนาจไปจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ก็อย่าคิดว่าจะอยู่อย่างเป็นสุข คราวที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลบ้านเมืองย่อยยับ ยังไม่สำนึก ยังกล้ากลับมาอีกหรือ พรรคประชาธิปัตย์อย่าเล่นละครรอส้มหล่นดีกว่า ส่วนที่ขู่จะตามราวี นางสาวยิ่งลักษณ์ นั้น จะไปดูในข้อกฎหมายว่าเป็นการข่มขู่ในฐานะฝ่ายการเมืองหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป” นายประชา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น