ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ชี้ ประธานสภาฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมถอนร่างปรองดองยุติขัดแย้ง แค่ปรับยุทธวิธีเดินทีละก้าว กินข้าวที่ละคำ โดยชะลอเพื่อจัดเตรียมกำลังให้พร้อม อีกทั้งอาจแค่หลีกทางจัดงบประมาณปี 56 ให้เสร็จก่อน ชี้ ล้างผิด “ทักษิณ” ยังเป็นธงรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ถ้าถอยจริงต้องยกเลิกและกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (1 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงการส่งสัญญาณจาก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน เตรียมถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ออกจากสภาฯ เพื่อยุติความแตกแยกขัดแย้งนั้น เห็นว่า คงเป็นแค่การปรับยุทธวิธี แต่ยังคงเป้าหมายเดิม เพื่อประเมินอารมณ์สังคม และการจัดการปัญหาในขบวนพรรคเพื่อไทย ที่เห็นแตกต่างกันมาตั้งแต่ต้น ซึ่งถ้ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เห็นว่า เรื่องนี้จะนำไปสู่ความแตกแยก ก็ไม่ควรเสนอมาตั้งแต่ต้น หรือเดินสายเปิดเวทีชุมนุมเตรียมผลักดันทั้ง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ล้างผิดทักษิณ และลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมสามัญที่จะถึงนี้
“ประการสำคัญ พรรคเพื่อไทย และรัฐบาล ต้องผ่านด่านศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ให้ได้ก่อน ว่า เข้าข่ายล้มล้างรัฐธรรมนูญและระบอบการปกครองหรือไม่ เพราะถ้าผ่านด่านนี้ไม่ได้ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ล้างผิดทักษิณ ก็ไม่มีอนาคต เพราะเนื้อหาของ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ทั้ง 4 ฉบับ ชัดเจนว่า เป็นการล้มล้างอำนาจตุลาการและรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าผ่านวาระ 1 และมีคนร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ก็มีสิทธิตกไป รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จึงตกอยู่ในหมากบังคับ อาจจะแค่ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ออกไปสักระยะก่อน เพื่อจัดขบวนตระเตรียมกำลังให้พร้อมกว่านี้ หรือเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีบทเรียนในสมัยประชุมที่ผ่านมา ประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำ และหวังบีบ หรือมัดมือชกเสียงข้างน้อยมากจนเกินไป ที่สำคัญ อาจจะแค่หลีกทางให้มีการพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินปี 2556 ให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาวาระ พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะต้องไม่ลืมว่า การล้างผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ยังเป็นธงของพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลชุดนี้ ถ้าจะถอยและยุติความแตกแยกจริงๆ หรือกลับตัวกลับใจกันได้ ต้องยกเลิกความคิดออกกฎหมายล้างผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยอมรับคำพิพากษาของศาลเท่านั้น ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุความขัดแย้งก็ยังดำรงอยู่ และฉีดยาชาเพื่อแค่ประครองสถานการณ์ให้รัฐบาลอยู่ไปวันๆ เท่านั้น