xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษกรัฐสุมไฟ ให้ท้ายแดงป่วน ปชป.-โบ้ย“มาร์ค”ไปปทุมฯ ยั่วยุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
รองโฆษกรัฐฯ ให้ท้ายเสื้อแดงป่วนเวที ปชป.ที่ปทุมธานี อ้างความรุนแรงเริ่มตั้งแต่ปี 48 ต่อเนื่องยุคสมัคร-สมชาย โบ้ยความเสื่อมถอยมาจากเหตุกระชากเก้าอี้ประธานสภาฯ ลามออกมาถึงข้างนอก โยนผิด“มาร์ค” ไปปทุมฯ เพื่อยั่วยุแถมชอบพูดเหน็บแนม ทำให้บางคนไม่พอใจ ท้าหากไม่ปลอดภัยให้ไปแจ้งความกับตำรวจ

วันที่ 30 มิ.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด นักจัดรายการทีวี-วิทยุคนเสื้อแดง ในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาประณามและเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปรามกลุ่มคนเสื้อแดง หลังออกมาก่อกวนการเปิดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้เราต้องช่วยกันวิเคราะห์ก่อนว่าเป็นเรื่องของการใช้ความรุนแรงหรือไม่ ความจริงพฤติกรรมความรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยพรรคเพื่อไทย แต่เกิดตั้งแต่ปี 2548 สมัยนายสมัคร สุนทรเวช หรือสมัยนายสมชาย วงสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีการประท้วง วันนี้ถามว่าคนไทยมีความรุนแรงมากไหมก็มีส่วนเยอะ ถามว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นความรุนแรงหรือไม่ ตนว่าแม่ค้าขายของในตลาด วินมอเตอร์ไซค์ ในชุมชนก็พร้อมจะก่อความรุนแรงได้ เพราะบางครั้งเขาไม่รู้

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นสังคมต้องช่วยกันทุกฝ่าย อย่างแรกต้องไปดูว่าใครทำอะไรผิดต้องดำเนินคดี ไม่ว่าจะเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อเขียว ต้องดำเนินคดี ต้องมีกล้องวงจรปิดมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับความปลอดภัยก็ไปแจ้งความ บางทีความเสื่อมถอยในสภาก็ลามมาถึงข้างนอกด้วย ภาพกระชากลากแขน ดึงเก้าอี้ประธานสภา สิ่งเหล่านี้คือความเสื่อมถอยของประชาธิปัตย์อย่างชัดเจน และก็ลามออกมาข้างนอกด้วย

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ตนตั้งคำถามว่านอกจากทุกฝ่ายต้องช่วยดูแล้ว การที่นายอภิสิทธิ์ ไป จ.ปทุมฯ นั้นเป็นการยั่วยุหรือไม่ ทำไมเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ปทุมฯ นายอภิสิทธิ์ไม่ไปช่วยหาเสียง และการที่ผู้สมัครชนะนั้นเพราะแกไม่ขึ้นป้ายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่ขึ้นป้ายภาพการช่วยชาวบ้าน พอชนะนายอภิสิทธิ์ถึงไป และการที่นายอภิสิทธิ์ไปเชียงใหม่และเลือกตั้งซ่อมไม่ได้ แต่ที่ไปนั้นเพราะจะไปยั่วยุ ฉะนั้นต้องดูว่าเนื้อหาการไปปราศรัยนั้นยั่วยุหรือไม่ เพราะลักษณะการพูดจาของนายอภิสิทธิ์กระแทกแดกดันเหน็บแนมคนอื่นอยู่แล้ว และการไปเหน็บแนมผู้หญิง เช่น นายกฯ นั้น บางคนก็รับไม่ได้ เรื่องความรุนแรงต้องมีการมองย้อนกลับไปด้วย ฉะนั้นไม่ว่านายกฯ หรือใครก็ต้องรับผิดชอบในส่วนของการกระทำ ไม่ใช่ว่าเสื้อแดง นายกฯ ต้องรับผิดชอบ นายกฯ รับผิดชอบทุกส่วนในประเทศนี้อยู่แล้ว ใครทำอะไรผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าจะแก้ปัญหาระยะยาวต้องย้อนดูไปตั้งแต่ปี 2548 ทางออกคือ นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ต้องแก้ปัญหาระยะยาวด้วย นั้นคือการผ่านร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ซึ่งจะทำให้บรรยากาศบ้านเมืองดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลควรมีมาตรการอย่างไรในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม นายอนุสรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยดูแลอยู่แล้ว รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ เพียงแต่ต้องกำชับจากนี้ไปใครทำอะไรไว้ต้องใช้หลักฐานทางเทคโนโลยี เช่น กล้องวงจรปิด เป็นต้น ต้องถามนายอภิสิทธิ์ด้วยว่าต้องการฟ้องร้องทางคดีหรือแค่ฟ้องสังคมเท่านั้น

เมื่อถามว่า ในฐานะที่ขึ้นเวทีปราศรัยเสื้อแดงบ่อยครั้งจะมีการทำความเข้าใจกับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไร นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนอยากฝากว่า คนเสื้อแดงไม่ต้องไปทำอะไรแบบนั้น เพราะเป็นจุดที่เขาจะมาต่อว่าเราได้ บางทีก็ต้องใช้กรรมออนไลน์ในการลงโทษ ใครหว่านพืชเช่นใดก็ได้ผลเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายอนุสรณ์อ้างว่าความรุนแรงเริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 นั้น หากย้อนดูข้อมูลข่าวเก่าจะพบว่า ฝ่ายที่ก่อความรุนแรงก็คือฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศและชักใยอยู่เบื้องหลังรัฐบาลชุดนี้นั่นเอง เริ่มจากการสั่งพนักงานป่าไม้ไปปาประทัดยักษ์ก่อกวนการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่สวนลุมพินี ในช่วงปลายปี 2548 ส่วนในช่วงปี 2549 มีการล้มเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.เชียงใหม่ มีการทำร้ายร่างกายผู้ประท้วง พ.ต.ท.ทักษิณที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนในช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต่อเนื่องรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อมีการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อแดงก็ตามไปก่อกวนตลอด เริ่มตั้งแต่การชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2551 ที่กลุ่มคนเสื้อแดงไปใช้ก้อนหินและสิ่งของปาใส่ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ จนได้รับบาดเจ็บหลาดคน และยังตามไปใช้ความรุนแรงก่อกวนอย่างต่อเนื่องในช่วงพันธมิตรฯ ชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ และในทำเนียบรัฐบาล ขณะที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดก็ถูกคนเสื้อแดงตามไปก่อกวนและทำร้ายร่างกายเช่นกัน โดยครั้งที่รุนแรงที่สุด คือเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดง จ.อุดรธานียกพวกไปรุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังเตรียมเปิดเวทีปราศรัยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2551 ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย ตามด้วยการใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บนับพันคน และยังมีการยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่ผู้ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลจนมีผู้เสียชีวิตหลายคน ส่วนในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็เห็นได้ชัดเจนถึงการใช้ความรุนแรงของคนเสื้อแดงในช่วงการชุมนุมปี 2552 และ 2553 ที่มีการใช้อาวุธสงครามยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่และลงเอยด้วยการเผาบ้านเผาเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น