ปชป.โต้รัฐบาลใส่ร้าย แฉ “จีน-รัสเซีย”กังวลมะกันสอดแนมหาข่าว

“ถาวร เสนเนียม” โต้รัฐบาล ใส่ร้าย “ยุคมาร์ค” นำนาซาสำรวจชั้นบรรยากาศ ยันแค่วางกรอบการลงนาม แต่ “ยุคปู” นำไปดำเนินการโดยไม่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง พร้อมงัดข้อมูลนาซาจับมือเชฟรอน หาประโยชน์ธุรกิจพลังงาน ขณะเดียวกันยังพบทั้งจีนและรัสเซีย ต่างกังวลสหรัฐฯ ใช้โครงการบังหน้า สอดแนมหาข่าวกระทบความมั่นคงในภูมิภาค

นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลพยายามโยนความผิดให้ฝ่ายค้านที่ทำให้ต้องยกเลิกโครงการที่องค์การนาซาของสหรัฐอเมริกา เข้ามาสำรวจชั้นบรรยากาศ ที่มีผลต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าถือว่ารัฐบาลให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ เพราะสิ่งที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำเนินการเป็นเพียงกรอบของการลงนามยังไม่นำไปสู่การปฏิบัติ จึงไม่จำเป็นต้องนำไปขอความเห็นชอบต่อที่ประชุม ครม. แต่เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาดำเนินการ กลับให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมอเมริกา และแปซิฟิกเป็นผู้รับผิดชอบประชุมร่วมกับนาซา รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกา โดยประชุมกัน 4 ครั้ง จึงได้ข้อยุติที่จะต้องส่งเรื่องนี้ขอความเห็นชอบในการลงนามในสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับนาซา

นายถาวร กล่าวอีกว่า รัฐบาลทำงานมาเกือบปี ประชุมเรื่องนี้ไป 4ครั้ง แต่กลับไม่เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อสอบถามรายละเอียดด้านความมั่นคงเลย และจากการเข้าไปตรวจสอบในเวปไซต์ของนาซา พบว่า มีภาพถ่ายคู่กันระหว่างผู้บริหารเชฟรอนและผู้นำนาซา ซึ่งมีข้อความระบุด้วยว่า นาซาจับมือกับเซฟรอนเป็นพันธมิตร ในการหาผลประโยชน์ในธุรกิจอุตสาหกรรมพลังงานในทุกประเทศ และทำกันอย่างเปิดเผย โดยนาซามีความเชี่ยวชาญในการเก็บข้อมูล และส่งข้อมูลให้แก่เชฟรอนที่มีบทบาทในการขุดเจาะสัมปทานผูกขาดพลังงาน และส่งน้ำมันและแก๊สไปขายให้แก่ประเทศอเมริกา จึงถือว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง

นายถาวร ยังเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ ที่เสนอโครงการดังกล่าวเข้า ครม. มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ซึ่งในเนื้อหาของเอกสารดังกล่าวมีความกังวลจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่า จะส่งผลกระทบต่อความมั่งคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างความหวาดระแวงแก่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย รวมทั้ง จีน และจะยังกระตุ้นให้ฝ่ายต่อต้านสหรัฐฯ เข้ามาก่อเหตุในไทย จึงเห็นควรให้มีการพิจารณาศึกษารายละเอียดของโครงการอย่างรอบคอบ ดังนั้น โครงการที่ยกเลิกไปไม่ใช่เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ขัดขวางแต่เป็นเพราะรัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจ อีกทั้ง ยังมีข้อกังวลด้านกฎหมายว่า จะเข้ามาตรา 190 ที่ต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาอีกด้วย

นายถาวร กล่าวว่าขณะนี้ ประเทศจีนและรัสเซีย แสดงความกังวลกรณีโครงการขององค์การนาซาในไทย โดยเฉพาะรัสเซีย ที่ระบุว่า สหรัฐฯ จะใช้โครงการนี้บังหน้า เพื่อสอดแนมหาข่าว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของภูมิภาคและรัสเซียด้วย ยิ่งตอกย้ำว่า ข้อมูลของฝ่ายค้านเป็นเรื่องจริง

และล่าสุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่งคง ก็ออกมาตำหนิหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า ให้ข้อมูลกับฝ่ายค้าน ซึ่งคนเป็นทหารและเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่งคง ควรจะมีจิตสำนึกในการทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของประเทศ มากกว่าจะหาตัวคนมาลงโทษ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ควรลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี รวมถึง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ออกมากล่าวโทษฝ่ายค้านตลอดเวลา

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเข้ามาสำรวจชั้นบรรยากาศขององค์การนาซา อาจมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจพลังงาน เพราะ นาซา ต้องนำข้อมูลให้ บริษัทธุรกิจพลังงานเชฟรอน ในฐานะหุ้นส่วนการทำงาน จึงตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้มีความเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ล่าสุดมีคนใกล้ชิด จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทธุรกิจพลังงาน ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นความบังเอิญ หรือ มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า

“ขณะนี้เชฟรอนได้ลงทุนก่อสร้าง ท่าเรือ และสำนักงานที่จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรองรับอุตสาหกรรม และธุรกิจพลังงานที่มีอยู่ในอ่าวไทย ซึ่งรัฐบาลกำลังจะเปิดสัมปทานอีก 13 หลุม ทำให้กลุ่มบริษัทเหล่านี้ถึงกับหูผึ่ง จะสังเกตได้ว่าประเทศกัมพูชา และสิงค์โปร์ ไม่ให้นาซาบินผ่านในเขตที่มีแหล่งพลังงาน แต่เรื่องนี้รมว.วิทยาศาสตร์ฯกลับไม่รู้เรื่อง”

นายถาวร ได้กล่าวขอโทษ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานความมั่นคง ที่เคยได้ออกมาตำหนิก่อนหน้านี้ว่า ไม่รักษาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ เพราะล่าสุด ผู้บัญชาการสูงสุดและผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ ต่างออกมาแสดงความกังวลกับโครงการนี้ว่า จะต้องมีการที่จะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว