“ส.ว.พิเชต” รับมะกันใช้อู่ตะเภาตรวจสอบอากาศส่อกระทบเพื่อนบ้าน วอนพิจารณารอบด้าน พร้อมเชิญกระทรวงต่างประเทศแจง ด้าน ส.ว.ตาก แนะนายกฯ สั่งรัฐหนุนงบส่งเสริมค้าชายแดน หลังถูกหั่นเหลือแค่ 3.2 ล้าน จี้สนใจกิจกรรมที่นำเงินสู่ชาติ
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. การประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานฯ โดยก่อนจะเข้าสู่วาระการประชุม นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ได้หารือว่า จากกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานความมั่นคงมีความเห็นว่า การที่สหรัฐอเมริกาขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ไม่ใช่กิจการทางทหาร แต่เป็นเรื่องดาวเทียมเพื่อตรวจสอบอากาศ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯได้หารือและเชิญหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าแม้กิจกรรมที่ขอใช้จะไม่ใช่กิจกรรมด้านทหาร แต่ดาวเทียมที่ใช้ตรวจจับอากาศ สามารถจับตาดูกิจการประเทศเพื่อนบ้านได้ และอาจผนวกกับกิจการทางทหารแฝงด้วยก็ได้ ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนกล้ารับประกันว่าการอนุมัติของรัฐบาลไทย จะไม่ก่อความระแวงกับประเทศเพื่อนบ้าน อันเป็นผลกระทบต่อประเทศไทย และรู้สึกไม่สบายใจที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้นทางคณะกรรมาธิการฯ จะเชิญทางกระทรวงต่างประเทศมาชี้แจงต่อไป และขอให้พิจารณาอย่างรอบด้าน และต้องเปิดเผยสัญญาต่อสาธารณะชนด้วย
ขณะที่ นายชนินทร์ หาญสืบสาย ส.ว.ตาก กล่าวว่า ตนขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรีขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณส่งเสริมการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการจัดสรรงบประมาณปี 56 ตนได้ทราบจากกรมการค้าต่างประเทศทางสำนักความร่วมมือการค้าการลงทุน ได้ขอตั้งงบประมาณไปเพื่อขอสนับสนุนกิจกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนเป็นเงิน 5.4 ล้านบาท แต่ถูกตัดเหลือแค่ 3.2 ล้านบาท ทุกคนก็พูดว่าการค้าชายแดนสำคัญต้องส่งเสริม แต่ขอจัดสรรงบประมาณเพียง 5.4 ล้านบาท ยังถูกตัดลดเลย อย่างนี้เรียกว่า “ดีแต่พูด” ตนจึงคิดว่ากิจกรรมใดที่จะนำเงินเข้าสู่ประเทศรัฐบาลควรให้ความสนใจ ส่วนรายการอื่นๆ ที่ไม่สำคัญก็ควรจะพิจารณาตัดงบอย่างโปร่งใส
