ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง “เรืองไกร” ขอยุบประชาธิปัตย์ ตาม ม.68 อ้าง 46 ส.ส.โหวต “อภิสิทธิ์” นายกฯ โมฆะทำได้คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง
วันนี้ (13 มิ.ย.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ และ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 3 จากกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 51 แต่เมื่อตรวจสอบองค์ประชุมและการลงมติของ ส.ส.ในขณะนั้นพบว่าในจำนวนเสียงที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ 219 เสียงนั้น มี 46 เสียงที่เป็นของ ส.ส.ที่สังกัด 3 พรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคจึงถือว่านายอภิสิทธิ์ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่กฎหมายกำหนด และการกระทำดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 68 ให้สิทธิแก่ผู้ทราบการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระกษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ดำเนินการตรวจสอบผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1. เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และ 2. ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว ดังนั้น เมื่อเนื้อของคำร้องต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจึงมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยต่อไป