นายกฯ สั่ง มท.เร่งจ่ายเงินเยียวยาจ.อยุธยาฯ ให้แล้วเสร็จกรกฎาฯ นี้ ขณะที่ผู้ว่าฯ ราชการแจงปรับปรุงซ่อมแซมถนนแนวป้องกันน้ำ-ทางรถไฟไม่ให้เข้าเขตอุตสาหกรรมโรจนะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. พร้อมชมแผนซักซ้อมการเตือนภัยรับมือเหตุน้ำท่วม-ตรวจโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ
วันนี้ (11 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าแผนการป้องกันน้ำท่วม 6 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา ซึ่งจากการรับฟังรายงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงตัวแทนนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนิคมอุตสากรรมโรจนะ, นิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค), นิคมฯ บางปะอิน, นิคมฯ นวนครและนิคมฯ บางกะดี ยืนยันว่าจะเร่งการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม
ขณะที่มีความเป็นห่ว นิคมฯ นวนครที่ยังไม่ดำเนินการ เพราะยังอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้บริหารฟื้นฟูและแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ทหารมลฑลทหารบกที่ 33 มาช่วยเหลือ และเร่งรัดการก่อสร้างให้เร็วขึ้น
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย เร่งจ่ายเงินชดเชยเยียวยาน้ำท่วมให้ทันก่อนเดือน กค. ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาปรับปรุงซ่อมแซมถนนแนวป้องกันน้ำ,ทางรถไฟไม่ให้เข้าเขตอุตสาหกรรมโรจนะภายในเดือน สค.
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองข้าเม่า นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตร รายงานว่าจะดำเนินการตามแผนให้เสร็จภายในเดือน สค.นี้และมอบหมายให้ นายวิทยา บูรณะศิริ รมว.สาธารณะสุขประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซ่อมแซมสถานศึกษาและบูรณะโบราณสถานให้คืนกลับสู่สภาพให้เร็วที่สุด
หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาต่อที่ วัดโพธิ์ลิง อ.เสนา ต.บ้านโพธิ์ เพื่อชมการฝึกซ้อมแผนเตือนภัย แผนเผชิญเหตุ และแผนอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงหากเกิดอุทกภัย โดยมีการจำลองเหตุการณ์ที่กรมชลประทานประกาศการปล่อยน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ทำปริมาณน้ำล้นตลิ่งภายใน26ชม. จึงมีการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนผ่าน mr.เตือนภัยในชุมชน รถ และเรือ ซึ่งในการฝึกซ้อมเสมือนจริงมีการจัดรถในการช่วยเหลือประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง อีกทั้งประชาชนได้อพยพข้าวของใช้สิ่งที่จำเป็นและ สัตว์เลี้ยงมายังศูนย์พักพิงอีกด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีต่างชื่นชมในความพร้อมเพรียงในการฝึกซ้อมของประชาชน
ทั้งนี้ในการฝึกซ้อมจ.พระนครศรีอยุธยาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกองทัพบก ปภ. กรมชลประทาน กฟผ. และประชาชนในพื้นที่
จากนั้น เดินทางไปตรวจโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ เทศบาลตำบลหัวเวียง อ. เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโครงการของงบปกติของกรมทรัพยากรน้ำที่ร่วมมือกับกองทัพบกเพื่อเร่งขุดลอกลำน้ำที่รับน้ำจากประตูน้ำเจ้าเจ็ด เพื่อระบายออกสู่แม่น้ำน้อย และเพิ่มศักยภาพในการเก็บกักน้ำธรรมชาติให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรโดยมีพื้นที่รับน้ำประมาณ7,500ไร่