“อภิสิทธิ์” ห่วงเยียวยาใต้ไร้มาตรฐาน ซ้ำเติมปัญหามากกว่าปรองดอง

“มาร์ค” ห่วงเยียวยาสองมาตรฐาน ให้สิทธิ “อังคณา นีละไพจิตร” ฟ้องแพ่งได้ หลังรับเงิน 7.75 ล้าน แต่ตัดสิทธิคนอื่น ระบุเงินชดเชยภาคใต้สุดมั่วไร้มาตรฐาน ซ้ำเติมปัญหามากกว่าสร้างปรองดอง

วันนี้ (11 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน แสดงความเป็นห่วงหลังจากที่คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน มีมติจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้สูญเสียในหลายกรณีจากการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้รับเงินชดเชย 7.75 ล้านบาท เช่นเดียวกับการชุมนุมทางการเมืองก่อนหน้านี้ แต่ให้นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร มีสิทธิในการฟ้องแพ่งได้ ขณะที่ตัดสิทธิผู้สูญเสียรายอื่นเพราะเป็นการสร้างมาตรฐานที่แตกต่างกันจนอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา โดยตนยืนยันหลายครั้งว่าการเยียวยาต้องเป็นมาตรฐานที่ให้คำตอบกับทุกฝ่ายได้ เพราะรัฐบาลก็บอกว่าทำเพื่อความปรองดอง ฉะนั้นอย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรู้สึกความไม่เป็นธรรมว่ามีการเลือกปฏิบัติ หรือสองมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์สร้างความปรองดอง และในเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ยังมีความแตกต่างกันมากระหว่างการเยียวยาที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว เป็นปัญหามาก ในที่สุดมันไม่ใช่กรณีของการที่จะทำให้เกิดความปรองดองหรือความเข้าใจที่ดีขึ้น

ผู้นำฝ่ายค้านยังกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจยื่นคำร้องต่อศาลกรณีชาวบ้าน จ.ปทุมธานี ปิดถนนย่านลำลูกกา เพราะไม่ได้รับเงินเยียวยา และศาลตัดสินจำคุก 1 เดือนแต่ให้รอลงอาญา แต่ตำรวจกลับไม่มีการดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมทางการเมืองย่านเศรษฐกิจว่า ตำรวจมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ตนถามว่า หากอ้างว่าการทำผิดกฎหมายอาญาสามารถทำได้เพราะเป็นเรื่องการเมือง ออกนิรโทษกรรมได้ ต่อไปประชาชนจะใช้วิธีการแบบนี้มากขึ้น และอ้างว่าเป็นการเมืองได้ทั้งนั้่น จึงเป็นกฎหมายที่มีความเป็นอันตรายมาก ยกเว้นจะมีการแยกแยะว่าอะไรเป็นความผิดทางการเมืองโดยแท้ เช่น อาจอนุโลมเรื่องการชุมนุมโดยสงบไม่จงใจทำผิดอาญา