พท.ย้ำการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะพิจารณา เหิมจี้ตุลาการศาล รธน.ให้กลับมติไม่รับคำร้องแก้ รธน.ล้มล้างการปกครองฯ ไม่เช่นนั้นจะเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนส่วนใหญ่ ยันไม่ลักไก่เร่งลงมติวาระ 3 นัด ส.ส.พรรคถกท่าทีจันทร์นี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงปฏิเสธข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่หากจะมีการปรับถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกหนังสือชี้แจงระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของอัยการกับศาลนั้นแตกต่างกัน คือ อัยการต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อนแล้วจึงใช้ดุลพินิจว่าจะยื่นฟ้องหรือยื่นคำร้องต่อศาลหรือไม่ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญต้องรับคำฟ้องหรือคำร้องให้เป็นคดีก่อน จากนั้นจึงพิจารณาพยานหลักฐานของทุกฝ่าย ดังนั้น การทำหน้าที่ของอัยการจึงเป็นคนละส่วนกับอำนาจของศาล และไม่เป็นการตัดอำนาจของศาล ในการที่จะรับคำร้องของผู้ที่มีสิทธิยื่นคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยนั้น นายพร้อมพงศ์อ้างว่า การยื่นคำร้องตามามาตรา 68 ประชาชนต้องยื่นต่ออัยการสูงสุดเท่านั้น ไม่สามารถยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ การกล่าวอ้างดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า จึงอยากเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมืองและประชาชน โดยให้มีการประชุมและมีมติไม่รับคำร้อง แต่หากศาลรัฐธรรมนูญยืนยันจะไตร่สวน ก็เชื่อว่าจะเกิดวิกฤตกับบ้านเมือง และตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับคนส่วนมาก และจะถูกต่อต้านจากประชาชน และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะต้องรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยืนยันไม่หวังฉวยโอกาสหรือเป็นการลักไก่เร่งลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา ซึ่งพรรคต้องการให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ พรรคจะมีการประชุม ส.ส.เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย. รวมถึงจะมีการประชุมวิปรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติและกำหนดท่าทีในการลงความเห็นในเรื่องดังกล่าว ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาในวันอังคารที่ 12 มิ.ย.
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งพบว่ามีการทุจริตตั้งแต่ปี 2552 จนถึง 2555 ซึ่งถือว่าเป็นการทุจริตข้ามรัฐบาล โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องการส่งมอบสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ตรงกับความต้องการในการใช้งาน ซึ่งโครงการเหล่านี้เป็นโครงการสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการของฝ่ายบริหารนักการเมืองที่มีชื่อย่อ ช. และ น. รวมถึงข้าราชการระดับสูงที่ร่วมกันทำการทุจริต
ส่วนกรณีที่ประชาชนร้องเรียนมายังพรรคเพื่อไทย เรื่องการพนันบอลฟุตบอลยูโรระบาดทางอินเทอร์เน็ตนั้น ทางพรรคจะส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปยังรัฐมนตรีว่การกระทรวงไอซีที สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะทำให้มีการก่อเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้น และทำให้เป็นปัญหาของสังคม
นายพร้อมพงศ์เปิดเผยว่า ทางพรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะทำงาน 2 คณะเพื่อลงพื้นที่สำรวจปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน ซึ่งจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลมาเสนอรัฐบาล