“ปลอดประสพ” อ้างเสียง ปชช.ไม่เอา รธน.50 ย้ำห่วยควรแก้ เหน็บศาลเป็นคนขับรถตั้งแต่ตอนไหนมาเบรกนู้นมาเบรกนี้ ตามคาดอ้าง ปชป.ยกมือแพ้ ต้องยอมรับเพราะเป็นกติกา ปชต. โชว์กร่างบอกหนุ่มกว่านี้คงได้รำมวยกับฝ่ายค้านฐานป่วนสภาแน่
วันที่ 5 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาลนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมไม่มีการพูดเรื่องพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุม ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง คุยแต่เรื่องข้าวยากหมากแพง น้ำท่วม ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเบรกการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ตรงนี้จะหาทางออกอย่างไร นายปลอดประสพกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนขับรถตั้งแต่ตอนไหน มาเบรกนู้นมาเบรกนี้ สำหรับตนในฐานะผู้แทนราษฎร พรรคมีความเห็นอย่างไรก็อย่างนั้น หากถามว่ารัฐธรรมนูญควรแก้หรือไม่ ก็ควรแก้เพราะมันห่วย ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญก็เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีงานทำ
“พวกผมเป็นคนออกรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีงานทำ เพราะฉะนั้นอย่างมาบอกว่าพวกผมว่าแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ท่าน หน้าที่คือการใช้รัฐธรรมนูญนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อประเทศชาติและตัวท่านเองให้คุ้มเงินเดือนท่าน ผมพูดผิดตรงไหน เพราะผมเป็นคนออกกฎหมาย เป็นผู้แทนราษฎร” นายปลอดประสพกล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าศาลทำเกินอำนาจหน้าที่หรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า ไม่มองอย่างนั้น แต่ตนเป็นคนออกกฎหมาย ออกรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ใช้บทบาทหน้าที่ในการตีความว่าถูกต้องหรือเปล่า ตนไม่ได้มองอะไรไปมากกว่านั้น
เมื่อถามว่า หากมีการโหวตร่างรัฐธรรมนูญไปแล้วจะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาหรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า ก็เปลี่ยนรัฐธรรมนูญ และทำให้ศาลมีงานทำ ถามต่อว่าจะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า ขามีเอาไว้เดินหน้า มันเป็นสิ่งถูกต้อง และต้องทำ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มันไม่ดีใครก็รู้ ไม่แก้วันนี้แล้วจะแก้วันไหน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าคิดมาอย่างไร มีเหตุผลมานานเพียงพอก็ทำไปเลย ไม่ได้เคยคิดว่าใครจะมาพูดอะไรอย่างไร พวกตนคงไม่ได้ใส่ใจ ก็ทำหน้าที่กันไป รัฐสภามีหน้าที่ออกกฎหมายก็ออกกฎหมาย ซึ่งประชาชนบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เรื่องต้องแก้ การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านมา 2 วาระทุกคนก็เห็นด้วย ทั้งวุฒิสภาและฝ่ายค้านถึงแม้ว่าฝ่ายค้านจะยกมือแพ้ แต่ด้วยกติกาประชาธิปไตยก็ต้องยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับก็ไม่เป็นระบบรัฐสภา ตนถือว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เองก็ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ เพราะเอาชนะไม่ได้
ส่วนเหตุการณ์ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านสร้างความวุ่นวายในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... นั้น นายปลอดประสพกล่าวว่า ถ้าตนเป็นหนุ่มกว่านี้ สงสัยได้รำมวยกันแน่ วันนั้นตนรออยู่ว่ามีใครปารองเท้าหรือไม่ ถ้าปารองเท้ามาตนจะเอารองไปซ่อน และก็มาเก็บเงินค่ารองเท้า แน่จริงขว้างนาฬิกา รองเท้ามาดิ ถ้าปลอดประสพไม่ยึดไม่ใช่ปลอดประสพ เก่งจริงต้องเอากระดาษตัวเองโยนไม่ใช่ไปหยิบของใครก็ไม่รู้มาโยน อย่างนั้นเขาเรียกว่าไม่แน่จริง ตนเชื่อว่าวันนั้นพรรคฝ่ายค้านเล่นไปตามบท
