นายกฯ ยิ้มระรื่น เมินแจงสื่อซักพันธมิตรฯ ลุย โบ้ยไปรอฟังพรุ่งนี้ “สุกำพล” หยันม็อบมาแค่พันไม่มาก อ้างรัฐไม่ทำอะไรสุดปรองดอง ยังไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เชื่อหวังสร้างสถานการณ์ให้ใช้กำลัง ด้านรองโฆษก ทบ.ยัน “ประยุทธ์” เรียกถกตามปกติ
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่อสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงการกำชับดูแลสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังสภามีมติโหวตเลื่อนการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องปรองดองแห่งชาติขึ่นมาพิจารณา โดยกล่าวเพียงว่า ให้รอฟังวันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ด้วยสีหน้าร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใส
ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเดินทางเยือนประเทศสิงคโปร์ว่า ตนอยู่สิงคโปร์ แต่ติดตามสถานการณ์ตลอด โดยให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกลาโหม ดูแลแทน ทั้งนี้รัฐบาลอดทนมาก แต่ม็อบ 1 พันคนถือว่าไม่มาก แต่เราไม่ทำอะไร ถือเป็นความปรองดองอย่างแท้จริง แต่อยากให้ฟังกันบ้างไม่ใช่อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้ มันก็แย่และจะอยู่กันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เรามีการเตรียมคิดแผนไว้ว่าเราควรจะทำอะไรไว้ก่อนแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้ คิดว่า ยังไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.มั่นคง เพราะเชื่อว่าตำรวจดูแลได้ แต่ที่เป็นห่วง คือ เขาพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การใช้กำลัง เราต้องคิดไว้ก่อนกรณี Worst Case ว่า จะต้องทำอย่างไร แต่เรามีบทเรียนกันมาแล้วว่า ไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก ตอนนี้รัฐบาลต้องอ่อนไว้ก่อน ต้องอดทน และปรองดอง อย่างที่สุด ขอร้องอย่าสร้างสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 3 มิ.ย.นี้ พล.อ.อ.สุกำพลเดินทางมาเยือนสิงคโปร์ ในฐานะ รมว.กลาโหม คนใหม่และประชุม Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ แต่จะเดินทางกลับก่อนกำหนดการเดิม โดยจะหารือ กับ LEON E. PANETTA รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ก่อนแล้วกลับทันที ซึ่งคาดจะกลับในคืนวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หรือเข้าวันที่ 2 มิ.ย.นี้
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกตลอดจนถึงผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ
โดย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นการประชุมตามปกติของกองทัพบก ทุกเดือนก็จะมีการประชุมครั้งหนึ่งสำหรับการประชุมในครั้งนี้ได้กำหนดมาก่อนหน้านั้นแล้วคงไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มอื่นๆ ที่ออกมาคัดค้าน พรบ.ความปรองดองเพราะทหารไม่มีหน้าที่ในส่วนนี้ คงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดูแลต่อไปและเขาก็มีแผนรองรับอยู่แล้วและถ้าหากสถานการณ์พัฒนาไปจนถึงขนาดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถดูแลได้ก็จะร้องขอกำลังทหารไปช่วย แต่ทหารก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเท่านั้น
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายใดๆ มารองรับให้ทหารออกไปดำเนินการคงจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ สำหรับการติดตามสถานการณ์นั้นในส่วนของทหารก็มีการดำเนินการในส่วนนี้ รวมถึงการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปถึงจุดใดเราก็จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แต่ขณะนี้จากการประเมินเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตามหากการประเมินสถานการณ์ส่อเค้าว่าจะมีความรุนแรงและวุ่นวายก็จะมีการจัดทำแผนขั้นสูงสุดโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.รมน.ก่อนจะเสนอเข้า ครม.แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทหารไปดูแลอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกอย่างก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว