xs
xsm
sm
md
lg

พธม.คืนทัพหน้ารัฐสภา - รอง ผบช.น.ยันไม่ใช้แก๊สน้ำตาลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มพธม.จำนวนหนึ่งรวมตัวบริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า จากทวิตเตอร์ @wichernp
พันธมิตรฯ เตรียมพร้อมแต่เช้าหน้ารัฐสภา ตำรวจเพิ่มกองกำลังจากเมื่อวานอีกประมาณ 4,500 นาย “ผู้การแต้ม” ขีดเส้น “เสื้อหลากสี” เปิดแยกการเรือนใน 5 นาที ไม่เช่นนั้นจะยึดรถขยายเสียง ล่าสุดสภายังเปิดการประชุมไม่ได้ โฆษกพันธมิตรฯ ชี้ตำรวจล้อมสภาทำสมาชิกเข้าที่ประชุมไม่ได้เอง ไม่เกี่ยวม็อบ ก่อนดาวกระจายให้ไปแยกการเรือน, ถ.ราชวิถี ช่วยหลากสีเผชิญตำรวจ ล่าสุดถอยทัพแล้ว







วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่และกระบอง มีการเตรียมกำลังพร้อมรอบรัฐสภา โดยเพิ่มจำนวนจากเมื่อวานเป็นประมาณ 4,500 นายโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในรั้วรัฐสภา ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯก็ได้มีการนำรั้วลวดหนามมาวางแนวไว้เพิ่มเติมจากที่ไม่ได้นำมาวางตรงจุดนี้ในสองวันที่ผ่านมา ส่วน ส.ส.ก็ยังมีทยอยเข้ามาลงชื่อเข้าร่วมประชุม แต่ก็ยังเป็นไปอย่างบางตา

ขณะที่การชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้นัดหมายกันตั้งแต่เวลา 06.00 น.ได้มีประชาชนทยอยเข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศบริเวณหน้าประตู 1 และ 2 ของรัฐสภา ซึ่งเป็นจุดตั้งเวทีชั่วคราวของพันธมิตรฯคึกคักเป็นพิเศษมากกว่าสองวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะมวลชนที่มาจากบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ที่มารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยมีร่วมกันรับประทานอาหารเช้า พร้อมแจกน้ำขวด ถุงพลาสติดขนาดใหญ่สำหรับกันฝัน และผ้าขนหนูเล็ก ไว้เตรียมรับมือกับมาตราการของเจ้าหน้าที่ที่คาดว่าอาจจะมีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุม โดยก่อนหน้านี้บนเวทีพันธมิตรฯได้มีการประกาศรับอาสาสมัครชุดแรกจำนวน 300 คนเพื่อเตรียมการปฏิบัติการพิเศษ ล่าสุดมีรายงานว่าอาสาสมัครทั้ง 300 คนได้เดินทางมุ่งสู่แยกการเรือน โดยทางแกนนำจะกำหนดยุทธวิธีการต่อสู้รูปแบบใหม่ช่วงสายนี้

ส่วนผู้ชุมนุมกลุ่มหลากสีได้ทำการพยายามปิดแยกการเรือน เพราะเป็นทางเดียวที่ ส.ส.ใช้เข้าสภาฯ และล่าสุด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขีดเส้นให้เปิดแยกการเรือนใน 5 นาที ไม่เช่นนั้นจะยึดรถขยายเสียง

จากนั้นเวลาประมาณ 08.20 น. กลุ่มพันธมิตรฯจำนวนหนึ่งได้สมทบกับเสื้อหลากสีที่แยกการเรือน โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้เปิดทาง

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวถึงสถานการณ์ในช่วงเช้าว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรจะอยู่แค่บริเวณด้านหน้าสภาฯ ด้านเขาดินเท่านั้น ซึ่งถ้า ส.ส.ไม่สามารถเข้ามาร่วมประชุมได้ ก็ไม่ได้เป็นการกระทำของกลุ่มพันธมิตร แต่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ส่วนการยกระดับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรนั้น จะมีการประเมินจะจำนวนของประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมก่อน แต่ถ้าสามารถขัดขวางการพิจารณาร่าง พรบ.ปรองดอง ได้ ทางพันธมิตรก็จะกระทำทันที เพราะหากรอการพิจารณาที่จะเกิดขึ้นทางกลุ่มก็จะไม่สามารถควบคุมได้อีก อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าทางกลุ่มพันธมิตรทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เช่น การส่งหนังสือของอนุญาตเข้าร่วมฟังการประชุมสภาฯ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการจากทางสภาฯ

ล่าสุดนายปานเทพ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยระบุให้แบ่งผู้ชุมนุมเป็น 3 ส่วน คือไปที่สี่แยกการเรือน ที่ ถ.ราชวิถี เพื่อไปช่วยมวลชนของกลุ่มเสื้อหลากสี และอีกส่วนหนึ่งคืออยู่ในพื้นที่หน้าเวที

เมื่อเวลา 09.40 น.พล.ต.ต.วิชัย ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการการเตรียมพร้อมของตำรวจในการดูแลการประชุมสภาฯ ว่า จะใช้การเจรจาและยกมือไหว้ผู้ชุมนุม และจะไม่มีการใช้ความมรุนแรง ประชาชนมั่นใจได้การชุมนุมจะไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหากไม่มีการบุกสภา แต่ก็ยอมรับว่ามีการเตรียมพร้อมการป้องกันตามหลักสากล แต่ก็จะปฏิบัติเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนกรณีจะใช้แก๊สน้ำตา และเครื่องรบกวนประสาทหูหรือไม่นั้น ยืนยันเราจะใช้การเจรจาเป็นหลัก รวมทั้งจะเจรจาขอเปิดทางให้ส.ส.เข้ามาประชุมได้ และขอย้ำว่าเมื่อตนเป็นผู้ดูแลสถานการณ์ที่นี่ คนละชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกับเหตุการณ์ 7 ต.ค. 51 ดังนั้น จะไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาและหูดับเพื่อสลายการชุมนุม

เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ร.อ.ประทีป ชื่นอารมณ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยระบุว่า หลังจากที่พันธมิตรฯ กระจายกำลังไปป้องกันเพื่อไม่ให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ในพื้นที่ สี่แยกการเรือน และ ถ.ราชวิถี ขณะนี้ได้ปฏิบัติเสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจาก ส.ส.ได้ออกจากรัฐสภา รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐสภา ก็ทยอยกลับบ้านแล้ว นั่นก็หมายความว่าจะไม่มีการประชุมเพื่อพิจารณาในวันนี้ แต่ขณะนี้กำลังติดตามว่า จะไปประชุมหรือไม่ ที่ไหน ซึ่งคงต้องตามสถานการณ์อีกระยะ จึงมีมติให้กำลังทั้ง 2 จุด กลับมาสมทบกันที่ ถ.อู่ทองใน หน้ารัฐสภา และเพื่อรอการตัดสินใจของแกนนำ ว่าจะทำอะไรต่อไป




























กำลังโหลดความคิดเห็น