xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กบัง” ยกปรองดองเทียม เทียบนโยบายต่อสู้เอาชนะคอมมิวนิสต์สมัยป๋า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” เชื่อ กม.ปรองดองไม่มีส่วนล้างผิด ย้ำไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเสนอกฎหมาย พร้อมยันกระบวนการค้นหาความจริงเดินหน้าต่อ ที่ใดที่มีความขัดแย้งแล้วถ้าเราไม่ให้อภัยต่อกันความขัดแย้งจะคงอยู่ต่อไป ยกนโยบาย 66/23 ที่ใช้ต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์มาเป็นข้ออ้าง


วันนี้ (29 พ.ค.) ที่รัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงกรณีร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ (ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง) ว่าสิ่งที่ทำในตอนนี้เจตนาคือการปรองดองเพราะที่ผ่านมาก็ทำปรองดองแต่ยังไม่สมบูรณ์มาถึงตรงนี้จะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เกิดกระบวนการปรองดอง อย่างไรก็ตาม กฎหมายบับนี้ไม่ได้มีการล้างผิดแต่อย่างใดคนผิดก็ต้องได้รับการลงโทษ ยกเว้นคนผิดตามเงื่อนไขตามการเมืองตรงนี้อภัยโทษให้หรือนิรโทษกรรมให้ในบางคดีถ้าผิดก็ต้องกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.จะทำให้ญาติผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองผิดหวังเพราะต้องการค้นหาความจริง พล.อ.สนธิกล่าวว่า กระบวนการค้นหาความจริงก็ทำอยู่ก็ต้องมีเสียหายน้อยบ้างมากบ้างและความขัดแย้ง ก็ต้องเกิดขึ้นบ้างแต่สำคัญที่ว่าจะทำอย่างไรให้ความขัดแย้งทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการปรองดองและการเยียวยาทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ การปรองดองไม่ใช่การหยุดค้นหาความจริง การค้นหาข้อเท็จจริงต้องค้นหาไปตลอดเพราะเป็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่ง ซึ่งที่ไหนก็ตามที่มีความขัดแย้งแล้วความขัดแย้งนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไป ถ้ายังไม่มีการให้อภัย จะเห็นว่าอินเตอร์เนชันแนล ลอว์ (international law) ชัดเจนเพราะบ้านเมืองเราเคยใช้เป็นรูปธรรม คือ นโยบาย 66/23 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 เรื่องนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีอันนี้ถือว่าจะทำให้เกิดการปรองดอง

เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าต้องมีการปะทะกันอีกใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น บทเรียนเคยมีแล้วรัฐบาลคงไม่ทำอย่างนั้น ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำเป็นเจตนาของความปรองดองอย่างแท้จริง กระบวนการที่ผ่านมายังไม่ความสมบูรณ์พอความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นและมีปัญหามาตลอด 5 นายกรัฐมนตรี มาถึงขณะนี้จึงต้องคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้ความปรองดองเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง

เมื่อถามอีกว่าความปรองดองรวมถึงการยกโทษให้คนที่ถูกศาลตัดสินว่าผิด พล.อ.สนธิกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ไม่มีการล้างผิด ถ้าดูในรายละเอียดจะเห็นว่าไม่มีการล้างผิด ใครทำผิดก็ผิด ยกเว้นในเงื่อนไขของการกรณีทางการเมืองเราจะยกเว้นเราจะนิรโทษกรรมให้ ใครทำผิดในบางคดีก็ต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อถามต่อว่าความปรองดองจะยุติกระบวนการค้นหาความจริงหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การค้นหาความจริงเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อไป เพราะมันเป็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่ง ส่วนความเสียหายเป็นเรื่องธรรมดามันอยู่ที่ว่าทำอย่างไรความขัดแย้งทั้งหมดจะเข้าไปสู่กระบวนการของความปรองดองการเยียวยาก็ว่ากันไป

เมื่อถามอีกว่าเราจะแสวงหาความจริงไปทำไมถ้าได้ความจริงมาแล้วก็ล้างความผิด พล.อ.สนธิกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นประวัติศาสตร์ ที่ใดที่มีความขัดแย้งแล้วถ้าเราไม่ให้อภัยต่อกันความขัดแย้งจะคงอยู่ต่อไป บ้านเราก็เคยใช้คำสั่ง 66/23 เป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เกิดความปรองดองได้

เมื่อถามว่าคิดว่ากฎหมายปรองดองจะสร้างความปรองดองได้จริงหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า สังคมประชาธิปไตยมีทั้งคนขอบและไม่ชอบ คงไม่มีใครเห็นด้วยกับอะไรทั้งหมด ขอให้ดูว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดอย่างไร เมื่อถามต่อว่าตอนนี้มีกลุ่มที่ไม่เข้าใจหลายกลุ่ม พล.อ.สนธิกล่าวว่า การทำความเข้าใจต้องใช้เวลา ไม่ใช่ทำวันนี้แล้วพรุ่งนี้เข้าใจหมด มันต้องทำไปเรื่อยๆ อะไรที่ทำให้เกิดความปรองดองได้เร็วต้องทำเลย เพราะบ้านเมืองรอไม่ได้

“ปัญหาบ้านเมืองเราทุกวันนี้มองเรื่องความมั่นคงมาลำดับหลัง เราให้นิติรัฐและนิติศาสตร์มาก่อน เมื่อนิติศาสตร์มาก่อน ความมั่นคงจะมาที่สอง ในขณะที่มีวิกฤตเราต้องให้ความมั่นคงมาก่อน นิติศาสตร์มาลำดับสอง ถ้าบ้านเมืองปกตินิติศาสตร์จึงจะมาก่อนรัฐศาสตร์” พล.อ.สนธิกล่าว

เมื่อถามว่ามีคนมองว่าท่านกำลังทำลายภาพลักษณ์ของทหาร พล.อ.สนธิกล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้นหรอก ตนทำมาด้วยความหวังดี ณ วันนี้ต้องการจะเห็นความปรองดองเราต้องคิดที่จะทำแล้วกล่าที่จะทำ เมื่อถามต่อว่ามีคนมองว่าการเป็นคนรัฐประหารเองแล้วเหตุใดเป็นคนเสนอกฎหมายให้ยกเลิกผลของการรัฐประหาร พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ กฎหมายนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตน ตนอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข เมื่อถามว่ากำลังจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นอีกแล้ว พล.อ.สนธิกล่าวว่า ไม่เป็นไร ระบอบประชาธิปไตยมันไปได้ ต้องศึกษากันไป ดูกันไป นี่คือความมีเสน่ห์ของประชาธิปไตยแบบบ้านเรา

เมื่อถามต่อว่ามั่นใจหรือไม่ว่ากฎหมายปรองดองจะไม่เป็นกฎหมายชนวนแห่งชาติ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นกฎหมายสากลที่คนทำกันทั่วโลก สถาบันพระปกเกล้าก็มีผลวิจัยว่าทุกประเทศมีการให้อภัยกัน ณ วันนี้เราต้องยอมต้องถอยหลังคนละก้าว ตนไม่มีอะไร ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อถามต่อว่าดูเหมือนการดำเนินการจะสอดรับกับช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาพูดเรื่องปรองดอง พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนพูดก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้ทุกประเทศก็พูดเรื่องปรองดอง นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียก็อยากให้เมืองไทยปรองดอง การปรองดองเป็นเรื่องที่ทั้งโลกเห็นด้วยหมด

เมื่อถามอีกว่ากังวลหรือไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งแล้วเกิดการรัฐประหารอีก พล.อ.สนธิกล่าวว่า ทหารต้องคิดให้ดีวันนี้กับวันที่ตนทำไม่เหมือนกันมันต่างกันคนละเรื่อง เมื่อถามต่อว่ายังยืนยันไหมว่าสิ่งที่ทำมากับกำลังทำอยู่ถูกต้อง พล.อ.สนธิกล่าวว่า ยืนยันว่าถูกต้อง และวันนี้จะทำอีกแบบให้เห็นว่าความปรองดองมันมีทางที่จะทำได้หลายทาง ตนยังเชื่อว่าคนไทยทุกคนเข้าใจได้ เมื่อถามอีกว่าจะตอบเตรียมทหารรุ่น 1ที่ออกมคัดค้านอย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า คนคนมีสิทธิคิดต่างกันได้ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือทหาร การมีความคิดที่หลากหลายเป็นธรรมดา คนเราคิดเหมือนกันได้ในบ้างเรื่องต่างกันได้ในบ้างเรื่อง อย่าคิดว่าตนคิดคล้ายกับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้วต้องมีคอนเนกชันกัน

เมื่อถามอีกว่าความปรองดองคือการจ่ายเงินชดเชย 7 ล้านบาทใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนเคยเป็นผู้บังคับบัญชาทหารรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ลูกต้องสูญเสีย เงินมันทดแทนไม่ได้เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่มีอะไรดีกว่าการเยียวยา ทำให้เขามีกำลังใจขึ้น ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น