“ประชา” สั่งล้างคุก! ลั่นรับไม่ได้เรือนจำเป็นแหล่งค้ายา

รมว.ยุติธรรม คาด 2 สัปดาห์จ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ได้ เข้มเรียก ผบ.เรือนจำรายงานคืบหน้าเคลียร์คุกสีขาว ลั่นทนไม่ได้เรือนจำค้ายาเอง ไม่เชื่อ “สุรทิน” โดนชก ชี้ใครบังอาจทำได้

วันนี้ (22 พ.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ว่า หลังจากมีการลงชื่อแล้วน่าจะจ่ายเงินได้ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ รอการเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้งก่อน และขณะนี้คณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียดและตรวจสอบว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่อย่างไร ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อหลากสีระบุว่าการจ่ายเงินต้องรอให้ศาลปกครองวินิจฉัยก่อนนั้นเห็นว่าคณะรัฐมนตรีมีอำนาจบริหารอยู่แล้ว และวงเงินก็หลักเกณฑ์เดียวกันกับคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนิน งานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.)

พล.ต.อ.ประชาให้สัมภาษณ์ถึงการล้างเรือนจำว่า ต้องล้างเรือนจำทั้งหมด 148 เรือนจำทั่วประเทศ เป็นเพราะการล้างคุกจึงทำให้เห็นผล ตนได้ให้นโยบายไปแล้วจะไม่มีทางจะปกป้องคนผิด จะให้เรือนจำเป็นแหล่งค้ายาเสียเองนั้น เราทนไม่ได้ โดยวันที่ 24 พ.ค.ได้นัดผู้บัญชาการเรือนจำทุกแห่งเข้ามารายงานข้อมูลว่าดำเนินการไปถึงไหน และต้องพิสูจน์ฝีมือตัวเอง จากที่เห็นภาพการค้ายาในเรือนจำนั้นเพราะตนล้างบ้านตัวเอง จึงเห็นว่ามันมีความสกปรก เมื่อก่อนไม่เคยมีใครทำ ตนมีนโยบายเคลียร์คุกให้เป็นสีขาว รวมทั้งบำบัดผู้ติดยาในเรือนจำที่มีประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของทุกเรือนจำ ทั้งนี้เรามีโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อรักษาผู้ป่วย หากรับไม่ได้ก็มีระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชนต่อไป ทั้งนี้ยังไม่ทราบข่าวรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ข่มขู่ผู้สื่อข่าวที่นครศรีธรรมราช

รมว.ยุติธรรมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งนายกฯเทศมนตรีที่อุดรธานีจะส่งผลต่อการรับเลือกตั้งนายก อบจ.หรือไม่ว่า แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสิน และเราต้องยอมรับความเห็นประชาชน ซึ่งตนยังมั่นใจในคะแนนเสียง เพราะส.ส.ของพรรคได้ให้การสนับสนุนนายวิเชียร ขาวขำ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่ได้เสียสละลาออก น่าจะได้รับความกรุณาจากพี่น้องประชาชน ส่วนกรณีที่ลูกสาว พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี ลงสมัครนายก อบจ.นั้นอาจเป็นเรื่องความต้องการของลูกสาวเองหรือไม่ เพราะตนยังไม่ได้พบกับ พ.ต.ท.สุรทินเพื่อถามความเป็นมาว่าสนับสนุนการลงสมัครของลูกสาวหรือไม่ แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนายวิเชียร และคงไม่ใช่ว่าพรรคเพื่อไทยแตกคอกัน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุรทิน ได้ร่วมแถลงข่าวสนับสนุนผู้สมัครที่พรรคสนับสนุนทุกครั้ง ส่วนประเด็นที่ พ.ต.ท.สุรทินแถลงข่าวว่าถูกทำร้ายนั้น เห็นว่าใครบังอาจกล้าหาญทำร้าย พ.ต.ท.สุรทิน เพราะตัวใหญ่ บุคลิกกล้าหาญและเป็นตำรวจ ส่วนอีกกระแสมมองว่าแพ้ยาหรือไม่