“หมอเหวง” โดดเชลียร์ป้อง “นช.แม้ว” ยันเป็นไปไม่ได้นายใหญ่สั่งถอย วอนเสื้อแดงอย่าด่วนสรุป ขอให้ดูกันยาวๆ แถแม้วพล่าม “พูดครั้งสุดท้าย” เพราะสถานการณ์เปลี่ยนเวทีแดงจะมีน้อยลงหรือคนสั่งฆ่า ปชช.จะถูกลงโทษ เตือนคนเสื้อแดงอย่าวิจารณ์ทักษิณ อ้างฝ่ายตรงข้ามยังเคลื่อนไหว
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สั่งให้เสื้อแดงยอมถอยเพื่อปรองดองว่า ในวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณพูด 2 ประเด็น คือ 1. กล่าวตำหนิกรณีอากงซึ่งสะท้อนให้เห็นกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และ 2. ให้ผู้ที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของประชาชนในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 53 มาลงโทษตามกฎหมาย และให้แกนนำเสื้อแดงคอยเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ซึ่งตนก็เห็นว่าการปรองดองนั้นก็ต้องทำหลังจากการใช้กระบวนการนิติรัฐ นิติธรรมมาดำเนินการก่อน การที่ไปมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดให้เสื้อแดงถอยนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ท่านคงเข้าไปแก้ไขปัญหาบางอย่างแต่ก็คงพูดในที่สาธารณะไมได้ และที่มีคนเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดไปมีความหมายให้ถอยต้องเข้าใจ ว่าการพูดเรื่องสั้นๆ ในเรื่องอธิบายได้ยาก มันทำได้ลำบาก
เมื่อถามว่าการปรองดองนั้นหมายถึงต้องมีผลต่อทุกคน จะเว้นบางคนไม่ได้ นพ.เหวงอธิบายว่า การปรองดองกับการนิรโทษกรรมไม่เหมือนกัน การปรองดองหมายถึงการหาข้อเท็จจริง เอาคนผิดมาลงโทษจึงจะปรองดองกับผู้สูญเสีย อย่างนั้นก็เป็นไปได้ เมื่อถามต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย นพ.เหวงกล่าวว่า ท่านอาจจะหมายถึงว่าเวทีเสื้อแดงไม่ได้มีบ่อยๆ จะมีเฉพาะวันครบรอบวันสำคัญเท่านั้น ที่บอกว่าพูดครั้งสุดท้าย เพราะว่าอีกไม่กี่เดือน ฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชนอาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือถูกดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) แล้วก็ได้เมื่อถึงเวลานั้น อะไรก็อาจเปลี่ยนไป
เมื่อถามว่าหลังจากที่การปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามเว็บไซต์ของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยในเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูด นพ.เหวงกล่าวว่า เมื่อคนเสื้อแดงแสดงความคิดเห็นก็ถือว่าเป็นสิทธิที่จะแสดงได้ ซึ่งเราก็มีหน้าที่รับฟังความคิดเห็น เรื่องนี้อย่าดูสั้นๆ ขอให้ดูระยะยาว แต่ขอเตือนคนเสื้อแดงว่าการแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ในห้วงเวลานี้เหมาะสมหรือไม่ เพราะฝ่ายตรงข้ามเรายังมีความเคลื่อนไหว อย่าเอาความขัดแย้งไม่เห็นด้วยภายใน ขยายตัวเเป็นเชิงปรปักษ์ต่อกัน