“หมอตุลย์” นำทีมก๊วนหลากสีบุกทำเนียบ ยื่นจดหมายเปิดผนึก จี้ “ยิ่งลักษณ์-ยงยุทธ” พิสูจน์เยียวยาแดงตายถูกรัฐกระทำหรือไม่ ค้านจ่ายศพต่อสู้เจ้าหน้าที่ ชี้เท่ากับถูกวิสามัญ ยัน 6 ศพวัดปทุมฯ ต้องเช็กก่อนว่าฝีมือใคร หนุนจ่ายตาม คอป.แค่ 3.2 ล้าน
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มหลากสี และแนวร่วมประกอบด้วย นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ เครือข่ายพลังแผ่นดิน และกลุ่มต่อต้านกระบวนการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 50 กลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ กลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ตัวแทนชาวราชประสงค์และสีลม และพวกจำนวน 20 คนได้เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) โดยมีนางอัจจิมา จันทร์สุวาณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ
นพ.ตุลย์กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะจ่ายเงินนั้น ต้องพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่เสียชีวิตถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการจ่ายเงินต้องดูว่าผู้นั้นได้กระทำผิดอยู่หรือไม่ หากกระทำผิดอยู่แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำตามหน้าที่ตรงนี้ก็ไม่ต้องจ่าย เพราะถือว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนบริเวณวัดปทุมวนารามวรวิหารนั้น ผลการชันสูตรพลิกศพพบว่าไม่ได้เสียชีวิตจากอาวุธสงครามที่ทหารใช้ ดังนั้น การจะจ่ายเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิต 6 ศพที่วัดปทุมวนารามฯ ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำ
นพ.ตุลย์กล่าวต่อว่า โดยเงื่อนไขเมื่อไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใน 91 ศพเป็นผลจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ประชาชนเสียหายอันนี้จ่ายไม่ได้ ทั้งนี้เราค้านอย่างมีเหตุและมีผล แต่หากผู้ที่เสียหายเป็นผู้ที่มาร่วมชุมนุมไม่ได้เผาตึก ยิงอาวุธใส่เจ้าหน้าที่ และไม่มีคดีอาญาติดตัว เราก็เห็นด้วยว่าผู้นั้นควรได้รับการชดเชยจากรัฐ ทั้งนี้ การจ่ายเงินเยียวยาชดเชยจำนวน 7.75 ล้านบาทนั้น เราไม่เห็นด้วย เพราะไม่มีที่มาที่ไป และควรจ่ายเงินชดเชยตามที่ คอป.เสนอมา คือ 3.2 ล้านบาท ตรงนี้น่าจะเหมาะสม และการที่รัฐบาลจะจ่ายเงินต้องมี พ.ร.บ.ออกมารองรับ รวมถึงรัฐบาลควรชะลอการจ่ายเงินออกไปก่อน เพราะศาลปกครองยังไม่ได้พิพากษาว่ามติ ครม.เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่าชอบหรือไม่