แม่พยาบาลแดง เผยหลังให้ข้อมูลกรรมการสิทธิฯ อ้างตำรวจ-ดีเอสไอ ยืนยันชัดทหารยิงเข้าวัดปทุมฯ จากรางรถไฟฟ้า โบ้ยพบอาวุธเพียบบอกถ้ามีจริงก็มีคนยิงโต้ไปแล้ว ยันหนุนนิรโทษกรรม แต่เว้นแกนนำ-บิ๊กทหาร-นักการเมือง โวย กสม.ทำเฉยตั้งแต่สมรภูมิคอกวัวจนตายเพียบ โอ่ฉลาดขึ้นไม่ยอมให้ใครหลอกง่ายๆ แล้ว
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน นางพะเยา อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เปิดเผยภายหลังเข้าให้ข้อมูลกับกสม.ในการร่างรายงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในกรณีเหตุการณ์การชุมนุมของ กลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มี.ค. 2553 ถึงวันที่ 19 พ.ค. 2553 รวมทั้ง พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และนางนิชา หิรัญบูรณะ
ธุวธรรม ภรรยาของ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ร่วมเข้าให้ข้อมูล
นางพะเยาเปิดเผยว่า โดยในการประชุมมีนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม.เป็นผู้สอบถามตนถึงเหตุการณ์ภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค. 2553 ว่าตนแน่ใจได้อย่างไรว่าทหารเป็นคนยิง น.ส.กมลเกด ซึ่งตนก็ตอบไปว่า เรื่องนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน ดีเอสไอ หรือทางตำรวจก็ชี้ชัดเจนว่ามีการยิงปืนจากบริเวณรางรถไฟฟ้าลงไปยังวัดปทุมวนาราม ที่ถือว่าเป็นเขตอภัยทาน โดยไม่มีการยิงตอบโต้ไปแม้แต่นัดเดียว
นอกจากนี้ นางอมรายังถามด้วยว่าทำไมภายหลังการเคลียร์พื้นที่จึงพบอาวุธสงครามจำนวนมากในวัด ตนก็ตอบไปว่าหากมีอาวุธจำนวนมากจริงในช่วงที่ทหารยิงลงมา น่าจะมีคนยิงตอบโต้ไป แต่ก็ไม่มี ตรงนี้น่าจะเป็นคำตอบแล้ว
นางพะเยาเปิดเผยด้วยว่า นางอมรายังถามตนถึงเรื่องความปรองดอง ซึ่งตนก็บอกไปว่า สนับสนุนความปรองดอง แต่การปรองดองกับการค้นหาความจริงเพื่อนำคนผิดมาลงโทษนั้นก็ต้องทำควบคู่กันไป แต่การนิรโทษกรรมนั้นเป็นอีกประเด็น ตนสนับสนุนการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมที่ถูกตัดสินจำคุกในขณะนี้ ทุกสีเสื้อ เนื่องจากอยู่ตรงกลางความขัดแย้ง การนิรโทษกรรมนี้ยังควรครอบคลุมไปถึงทหารชั้นผู้น้อยที่ได้รับคำสั่งมายิงคน แต่ทั้งนี้ไม่ควรนิรโทษกรรมให้กับนายทหารระดับสูงที่สั่งการ นักการเมือง และแกนนำ ซึ่งกรรมการสิทธิฯ จะต้องทำเรื่องนี้
“กรรมการสิทธิฯ ไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เรื่องน่าจะจบตั้งแต่ที่มีผู้เสียชีวิต 10 เม.ย. 53 แล้ว แต่กรรมการสิทธิฯ นิ่งเฉยจนมีผู้เสียชีวิตต่อมาอีก การทำงานเพื่อประชาชนต้องไม่แบ่งสีแบ่งฝ่าย เพราะประชาชนฉลาดขึ้น ไม่ยอมให้ใครมาหลอกง่ายๆ อีกแล้ว” นางพะเยากล่าว
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน นางพะเยา อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เปิดเผยภายหลังเข้าให้ข้อมูลกับกสม.ในการร่างรายงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในกรณีเหตุการณ์การชุมนุมของ กลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มี.ค. 2553 ถึงวันที่ 19 พ.ค. 2553 รวมทั้ง พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และนางนิชา หิรัญบูรณะ
ธุวธรรม ภรรยาของ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ร่วมเข้าให้ข้อมูล
นางพะเยาเปิดเผยว่า โดยในการประชุมมีนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม.เป็นผู้สอบถามตนถึงเหตุการณ์ภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค. 2553 ว่าตนแน่ใจได้อย่างไรว่าทหารเป็นคนยิง น.ส.กมลเกด ซึ่งตนก็ตอบไปว่า เรื่องนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน ดีเอสไอ หรือทางตำรวจก็ชี้ชัดเจนว่ามีการยิงปืนจากบริเวณรางรถไฟฟ้าลงไปยังวัดปทุมวนาราม ที่ถือว่าเป็นเขตอภัยทาน โดยไม่มีการยิงตอบโต้ไปแม้แต่นัดเดียว
นอกจากนี้ นางอมรายังถามด้วยว่าทำไมภายหลังการเคลียร์พื้นที่จึงพบอาวุธสงครามจำนวนมากในวัด ตนก็ตอบไปว่าหากมีอาวุธจำนวนมากจริงในช่วงที่ทหารยิงลงมา น่าจะมีคนยิงตอบโต้ไป แต่ก็ไม่มี ตรงนี้น่าจะเป็นคำตอบแล้ว
นางพะเยาเปิดเผยด้วยว่า นางอมรายังถามตนถึงเรื่องความปรองดอง ซึ่งตนก็บอกไปว่า สนับสนุนความปรองดอง แต่การปรองดองกับการค้นหาความจริงเพื่อนำคนผิดมาลงโทษนั้นก็ต้องทำควบคู่กันไป แต่การนิรโทษกรรมนั้นเป็นอีกประเด็น ตนสนับสนุนการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมที่ถูกตัดสินจำคุกในขณะนี้ ทุกสีเสื้อ เนื่องจากอยู่ตรงกลางความขัดแย้ง การนิรโทษกรรมนี้ยังควรครอบคลุมไปถึงทหารชั้นผู้น้อยที่ได้รับคำสั่งมายิงคน แต่ทั้งนี้ไม่ควรนิรโทษกรรมให้กับนายทหารระดับสูงที่สั่งการ นักการเมือง และแกนนำ ซึ่งกรรมการสิทธิฯ จะต้องทำเรื่องนี้
“กรรมการสิทธิฯ ไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เรื่องน่าจะจบตั้งแต่ที่มีผู้เสียชีวิต 10 เม.ย. 53 แล้ว แต่กรรมการสิทธิฯ นิ่งเฉยจนมีผู้เสียชีวิตต่อมาอีก การทำงานเพื่อประชาชนต้องไม่แบ่งสีแบ่งฝ่าย เพราะประชาชนฉลาดขึ้น ไม่ยอมให้ใครมาหลอกง่ายๆ อีกแล้ว” นางพะเยากล่าว