รองนายกฯ ท่องคาถาถือเป็นสิทธิดีเอสไอสั่งไม่ฟ้อง “จตุพร” อ้างนักปราชญ์ราชบัณฑิตตีความแล้วไม่เข้าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยันรัฐบาลไม่มีนโยบายแก้ ม.112 ส่วนเรื่องเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงถือเป็นสิทธิจะไปห้ามไม่ได้ ป้องแก๊งแดงขับรถไล่ “ตั๊ก” ไม่ถือเป็นการข่มขู่คุกคาม แค่แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ
วันนี้ (17 พ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องการดำเนินนโยบายการปรองดองสมานฉันท์ของคนในประเทศว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สั่งไม่ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 และอัยการสูงสุดยังสั่งไม่ฟ้องนายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ก็มาเปลี่ยนสีสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร และอัยการก็สั่งไม่ฟ้องนายจักรภพเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คดีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม หมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ถูกดองคดี ดังนั้น ตนอยากถามว่านายธาริตทำงานไปตามนโยบายปรองดองของรัฐบาลใช่หรือไม่ที่ไม่สั่งฟ้องนายจตุพรและพวก
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กรณีของนายจตุพรทางดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ แต่จากการสอบสวนโดยได้ถามนักปราชญ์ราชบัณฑิตแล้วพบว่าถ้อยคำดังกล่าวไม่เข้าข่ายมาตรา 112 จึงฟังไม่ได้ว่านายจตุพรมีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมื่อดีเอสไอสั่งไม่ฟ้อง อัยการก็สามารถสั่งไม่ฟ้องตามได้ หรือจะฟ้องก็ได้ ดังนั้น การที่ดีเอสไอใช้ดุลพินิจของเขาจึงไม่ใช่เรื่องผิด
นายวัชระกล่าวต่อว่า ถ้านายธาริตมั่นใจว่าไม่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพขอให้นำมาเปิดเผยกับประชาชน และร.ต.อ.เฉลิมเคยยืนยันว่าสามารถสั่งดีเอสไอได้ ก็แสดงว่ากรณีนี้ ร.ต.อ.เฉลิมน่าจะสั่งดีเอสไอตามนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงไล่ล่าตาม น.ส.บงกช คงมาลัย หรือตั๊ก นักแสดงสาว ที่โพสต์เฟซบุ๊กถึงการเสียชีวิตของอากงที่พัทยา ตนจึงอยากถามว่ารัฐบาลจะดูแลคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาลอย่างไร ไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้อีก และการที่ น.ส.บงกชบอกไม่ต้องการความช่วยเหลือที่ ร.ต.อ.เฉลิมประกาศให้เบอร์โทรศัพท์ ตนคิดว่าเธอคิดถูกแล้ว เพราะถ้าโทร.ไปก็จะยิ่งไม่ปลอดภัยไปกันใหญ่ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นตำรวจมารับโทรศัพท์ นอกจากนี้ อยากถามว่ากรณีที่มีการขยายหมู่บ้านเสื้อแดงไปยังภาคใต้ รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงหรือไม่ และสอดคล้องกับนโยบายปรองดองหรือไม่ ได้ใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพราะมีข่าวว่าหากเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงจะได้งบประมาณ 1 ล้านบาท
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คดีนายจตุพรยังไม่แล้วเสร็จ เพราะอัยการอาจจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ได้ นายธาริตก็ใช้ดุลพินิจในฐานะอธิบดีดีเอสไอ แต่สอบแล้วปรากฏว่าไม่ผิดก็ต้องสั่งไม่ฟ้อง ดังนั้น ขอให้รอดูต่อไป อย่าเพิ่งใจร้อน ถ้าดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องหากมีช่องทางใดท่านจะไปฟ้องเพิ่มก็ได้ ทั้งนี้ เรื่องที่ถามว่าตนสามารถสั่งดีเอสไอได้นั้น ตนสั่งดีเอสไอให้ทำงานบนพื้นฐานของกฎหมาย ไปสั่งให้ทำงานโดยไม่มีหลักฐานตามกฎหมายไม่ได้ ส่วนคดีของนายโรเบิร์ตนั้นเบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายจับ ยังเข้าข่ายที่ตำรวจจับไม่ได้ และกรณีที่ น.ส.บงกชที่บอกไม่รับความช่วยเหลือของตนนั้น ตนได้คุยกับเจ้าของสหมงคลฟิล์มแล้วบอกหากเดือดร้อนก็ต้องไปดำเนินคดี กรณีที่ น.ส.บงกชถูกกลุ่มเสื้อแดงขับไล่ไม่ได้เข้าข่ายผิดกฎหมาย เป็นแค่การแสดงความเห็นที่ไม่พอใจ ไม่ใช่การข่มขู่ หรือกักขังหน่วงเหนี่ยวแต่อย่างใด
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า เรื่องการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีสิทธิไปห้าม เขาจะเปิดใครจะไปห้าม ส่วนงบประมาณที่มีข่าวว่าจะให้ก็ไม่มี เพราะเราเอาเงินไปใช้ผิดประเภทไม่ได้ เรื่องการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงเขาอยากจะไปเจาะตลาดในภาคใต้ แต่สำหรับตนมันเสียของ เลิกพูดเสียที คนใส่ร้ายรัฐบาล เราไม่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เด็ดขาด ใครจะแก้ก็เป็นสิทธิ แต่ตนคัดค้านเด็ดขาด ยืนยันรัฐบาลนี้ไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างแน่นอน
