xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยวุ่น “ยงยุทธ” ผนึก “ปู” กระชับอำนาจกันท่าพวก 111

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

น่าจะเป็นธรรมชาติของคนที่เมื่ออำนาจและผลประโยชน์ขัดกัน มันก็ทำให้ได้เห็นความขัดแย้งชิงดีชิงเด่นปะทุออกมาสู่ภายนอก ไม่ต่างจากพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตรในวันนี้กำลังจะเกิดความชุลมุนเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากที่กลุ่มบ้านเลขที่ 111 กำลังพ้นโทษทางการเมืองออกมาโลดแล่นอย่างเสรี และที่สำคัญกำลังหันหัวกลับเข้ามาสู่พรรคเพื่อไทยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ตามกำหนดการพวกบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษแบนดังกล่าวและประกาศจะสมัครเข้าเป็นสมัครพรรคเพื่อไทยในวันถัดมา และก่อนหน้านั้นก็ได้จัดกิจกรรมโหมโรงประชาสัมพันธ์ตัวเองมาเป็นระยะ ล่าสุด วานนี้ (16 พฤษภาคม) ก็นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเองกันอีกรอบ มีสมาชิกเดินทางเข้าร่วมหนาตาพอสมควร

นั่นเป็นความเคลื่อนไหวของระดับที่เคยเข้าใจว่าเป็น “ขาใหญ่” ในพรรคตั้งแต่ในยุคพรรคไทยรักไทย และแม้ว่าที่ผ่านมาก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ยังพยายามสร้างบทบาทอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายทำให้ไม่ค่อยออกมาให้เห็นแบบโฉ่งฉ่างมากนัก อย่างมากก็ทำตัวเป็น “อีแอบ” ซ่อนอยู่ข้างหลัง

อย่างไรก็ดี ด้วยระยะเวลาที่ห่างหายไปนานถึง 5 ปี จากเดิมที่เคยเป็นตัวจริง แต่ถูกห้ามลงสนาม ทำให้เปิดโอกาสให้พวกตัวสำรองเกรดสองเกรดสามลงไปแทน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเล่นไปนานๆ ก็เริ่มสนุก เมื่อถึงเวลาก็ไม่อยากเปลี่ยนตัวสลับให้ตัวจริงลงมา

ความรู้สึกและบรรยากาศดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย ที่กำลังเกิดแรงกระเพื่อมตั้งแต่ “หัวยันหาง” ซึ่งหากพูดให้เห็นภาพก็ต้องชี้ไปที่ตัวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลดระดับลงมาจนถึง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ

ต้องไม่ลืมว่าสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่แหละคือ “หุ่นเชิด” หรือ ตัวสำรอง หรือว่าตัวแทน หรือว่าจะเรียกอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ “ตัวจริง” ที่มีความพร้อมสำหรับก้าวสู่การเมือง แต่เป็นลักษณะที่เปรียบได้กับ “น้องสาวเจ้าของบริษัท” ที่ถูกส่งเข้ามารักษาอำนาจสั่งการแทนเท่านั้น แต่ก็อย่างว่าคำว่า “อำนาจ” ย่อมไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งนานวันก็ยิ่ง “เสพติด”เคลิบเคลิ้มยึดติดกับเก้าอี้ การได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของเธอมานานถึง 10 เดือนทำให้เริ่มสนุก และนี่คือที่มาของอาการมั่นใจ เริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่ง และที่สำคัญเริ่ม “สร้างบาง” ขึ้นมาเพื่อสร้างบารมีด้วยตัวเอง

ถัดมาก็เป็น ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รายนี้ถ้าจะเรียกว่า “คนทำงานในพรรคเพื่อไทย” น่าจะเหมาะสมมากกว่าเป็นหัวหน้าพรรค เพราะบทบาทที่ผ่านมาสังคมภายนอกเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่มีอำนาจสั่งการอะไรได้ แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่านี่คือ สายตรงจาก ทักษิณ ชินวัตร แต่ถ้าสังเกตให้ดีระยะหลังเริ่มมีการรับใช้ใกล้ชิด ยิ่งลักษณ์ ในฐานะที่ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีมากขึ้นเรื่อยๆ และในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งก่อนก็ยังเหนียวหนึบ แม้ว่าถูกวิจารณ์ในเรื่องการทำหน้าที่ในฐานรองนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่าไม่อาจขับเคลื่อนทางการเมืองรองรับการขยายฐานออกไปได้ตามเป้าหมายก็ตาม

ความเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทย ภายใต้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ ยงยุทธ ที่น่าสนใจก็คือการปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ โดยล่าสุดได้สั่งยกเลิก “ประธานภาค” ให้ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบการ “แบ่งโซนพื้นที่” โดยให้แต่ละคนเป็นหัวหน้าคุมโซน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดที่ได้รับการแต่งตั้งล้วนอยู่ใน “กลุ่มอำนาจ” รุ่นใหม่ ที่ส้มหล่นจากตัวสำรองผันมาลงสนามแทนตัวจริง หากไล่เรียงรายชื่อ นอกเหนือจากยิ่งลักษณ์ ยงยุทธแล้ว ก็ต้องพ่วงเอา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เป็นเลขาธิการพรรคในปัจจุบัน และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที

การมอบหมายคุมโซนแบ่งพื้นที่กันใหม่ภายในพรรคเพื่อไทยเมื่อวันก่อนที่ลงนามโดย ยงยุทธ ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งต้องได้รับไฟเขียวจากยิ่งลักษณ์อย่างแน่นอน แต่ที่น่าสังเกตก็คือเป็นการรวบรัดแต่งตั้งแบ่งเค้กให้รัฐมนตรีเข้ามาคุมโซน จึงถูกมองว่าเป็นการ “กระชับอำนาจ” กันท่าพวกบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะยกโขยงเข้ามาเอาไว้ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าต้องหวาดผวาเข้ามาแย่งบทบาทในอนาคตทั้งในพรรคและในรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาก็มีการเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

นั่นคือสัญญาณป่วนภายในพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล หลังจากพวกขาใหญ่กำลังกลับมา แต่พวกตัวสำรองที่กำลังเล่นบทตัวจริงในเวลานี้เริ่มอิดออดหวงตำแหน่ง ซึ่งในที่นี้ย่อมหมายรวมถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นั่งอยู่ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วย แม้ว่าตำแหน่งจะไม่กระทบ ไม่มีใครกล้าแซะ แต่ความหมายก็คือไม่ว่าตัวเองแสดง “ปัญญานิ่ม” ออกมาออกมาเพียงใด ก็อยากได้ยินแต่คำชมว่า “ดีแล้วนาย” ทั้งนั้น คงไม่อยากให้ใครมาขัดคอแย่งความเด่น โดยเฉพาะพวกบ้านเลขที่ 111 ที่ชอบโชว์ออฟอวดรู้รับรองว่าไม่ชอบแน่นอน สู้เป็นคอหอย-ลูกกระเดือกกับ ยงยุทธ-เฉลิม แบบนี้ต่อไปสนุกกว่า และอย่าได้แปลกใจที่แข็งขืนยื้อปรับคณะรัฐมนตรีออกไปอีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือน อย่างน้อยก็ต้องรอให้ภารกิจสำคัญ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมผ่านไปก่อน

ทางหนึ่งเพื่อต้องการลดแรงกระเพื่อม ลดความโกลาหลหลังจากพวก 111 เข้ามา ขณะเดียวกันเมื่อถึงเวลาก็อาจยืมมือฝ่ายค้านเชือดรัฐมนตรีในศึกซักฟอกที่กำหนดเอาไว้ในต้นเดือนสิงหาคม นำมาเป็นเหตุผลในการโละทิ้งรัฐมนตรีบางคน แม้ว่าเป้าหมายหลักจะอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สะเทือนอยู่แล้ว ตรงกันข้ามกลับใช้เป็นเหตุผลปรับใหญ่ฉวยโอกาสตั้งก๊วนดึงคนของตัวเองเข้ามานั่งเก้าอี้สำคัญ อย่างไรก็ดีไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ย่อมมองเห็นสัญญาณป่วนเกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว เพียงแต่ว่าเอาอยู่หรือไม่เท่านั้นเอง!!
ยงยุทธ วิชัยดิษฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
น.อ.อนุดิษฐ นาครทรรพ
กำลังโหลดความคิดเห็น