“ก่อแก้ว” ยันมีนักการเมืองบางพรรคเป็นคนระดมชาวบ้านจาก จ.พังงา กระบี่ ภูเก็ต เชื่อแท้จริงคือแนวร่วมคนเสื้อเหลืองให้ออกมาขัดขวาง ไม่ให้คนเสื้อแดงได้ปราศรัย จนเวทีที่ จ.ภูเก็ตล่ม ฉุน ผวจ.ภูเก็ต รวมถึง จนท.เป็นคนของพรรคการเมืองเจ้าของพื้นที่
วันนี้ (14 พ.ค.) นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.กล่าวถึงกรณีแกนนำนปช.จะไปตั้งเวทีปราศรัยที่หาดในยาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 12 พ.ค. แต่ถูกกลุ่มมวลชนต่อต้านจนไม่สามารถ
ตั้งเวทีได้ว่า ทราบมาว่ามีนักการเมืองบางพรรคเป็นคนระดมชาวบ้านจาก จ.พังงา กระบี่ ภูเก็ต ซึ่งแท้จริงก็คือแนวร่วมคนเสื้อเหลืองให้ออกมาต่อต้าน ช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ค. รถบรรทุกเครื่องขยายเสียงที่จะมาติดตั้งยังเวทีก็ถูกกลุ่มมวลชนเสื้อเหลืองตั้งด่านสกัดกั้น แม้คนขับรถพยายามเจรจาและขอไปตั้งเครื่องเสียงที่เวทีให้ได้เพราะรับงานมาแล้ว ทำให้มีปากเสียงและถูกทำร้ายเล็กน้อยเลยเกิดความกลัว ไม่มาติดตั้งเครื่องขยายเสียงให้ยังเวทีคนเสื้อแดง จากนั้นพอช่วงเย็นก็เริ่มมีการระดมคนที่ตั้งเป้าให้ได้ถึง 3,000 คนเพื่อไปขัดขวางการตั้งเวที ขณะที่มวลชนบางส่วนก็เตรียมไว้ขัดขวางแกนนำ นปช.ที่สนามบินภูเก็ต ซึ่งขณะนั้นแกนนำส่วนกลางบางส่วน อาทิ นายจตุพร และตน ที่อยู่ จ.เชียงใหม่ เมื่อทราบเหตุการณ์และไม่อยากให้เกิดการปะทะกันจึงตัดสินใจเลื่อนเวทีปราศรัยออกไปก่อน
นายก่อแก้วกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกไม่ค่อยพอใจผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่มหาดไทยซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นคนของบางพรรคการเมือง อาจเป็นผลพวงมาจากการโยกย้ายที่ผ่านมาที่ยังปล่อยให้ในพื้นที่นี้ยังเป็นคนของเขาอยู่ จึงอยากฝากเรียนไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลสตช. และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ที่ดูแลเรื่องนี้ไว้ด้วย อย่างไรก็ดี แม้วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแต่ก็ไม่สามารถจัดการเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่คนเพียง 30 คนตั้งด่านสกัดกั้นไปจุดต่างๆ ทั้งที่การไปตั้งเวทีหรือไปเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงก็เพียงเพื่อไปรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดเท่านั้น
เมื่อถามว่าที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ที่คนเสื้อแดงเตรียมไปเปิดเวทีปราศรัยและเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ก็ถูกต่อต้านลักษณะเดียวกัน นายก่อแก้วกล่าวว่า เมื่อมีการขัดขวางเวที จ.ภูเก็ตได้ เขาก็คงพยายามใช้โมเดลนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เราขยายพื้นที่ได้ลำบาก และเหตุที่เลือกพื้นที่ภูเก็ตเพราะในการเลือกตั้งเขต 2 ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย แพ้นางอัญชลี วานิชเทพบุตร จากพรรคประชาธิปัตย์เพียง 2 หมื่นคะแนน ซึ่งผลต่างน้อยที่สุดหากเทียบกับ
จังหวัดอื่นทางภาคใต้ ประกอบกับ จ.ภูเก็ตว่ามีความหลากหลาย อัตราส่วนคนท้องถิ่นน้อยกว่า แต่มีประชากรจากจังหวัดอื่นๆ ทั่วภูมิภาคเข้าไปทำงานมาก บางพรรคจึงกลัวว่าหากเราไปเจาะพื้นที่ตรงนี้ได้ แม้จะไม่ถึงขั้นได้ ส.ส.ในพื้นที่ แต่มันก็จะเกิดกระแสในเชิงจิตวิทยา จึงพยายามทุกวิถีทางสกัดกั้นไม่ให้มีการตั้งเวทีหรือหมู่บ้านคนเสื้อแดงในภาคใต้ ส่วนการจะไปตั้งเวทีอื่นๆ ในภาคใต้ได้ คาดว่าต่อไปคงจะให้ข้อมูลรู้กันให้น้อยที่สุดเพียงคนเสื้อแดงในพื้นที่นั้นๆ และประสานเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาดูแลความเรียบร้อย ถึงอย่างไรการไปเปิดเวทีหรือหมู่บ้านเสื้อแดงก็เพื่อจะให้ข้อเท็จจริงคนในพื้นที่เท่านั้น