รายงานการเมือง
อาจสงสัยว่า ทำไม “เพื่อไทย” ถึงต้องให้ “วิเชียร ขาวขำ” อดีต ส.ส.อุดรธานีหลายสมัยลาออกจากการเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย ไปลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี (อบจ.อุดรธานี)
ประเด็นนี้ปัญหาก็มีอยู่ว่า นอกจากเรื่องปัญหาการเมืองภายในของพวก ส.ส.อุดรธานี เพื่อไทยและคนเสื้อแดงอุดรธานีแล้ว ฝ่ายตรงข้ามตัวคู่แข่งขันที่ วิเชียร จะสู้ด้วยก็สำคัญไม่น้อย จนเพื่อไทยเกรงว่าจะแพ้เลือกตั้งจึงต้องให้วิเชียรไปลงสมัคร ทั้งที่เดิมประกาศหนุน ประสพ บุษราคัม อดีต ส.ส.อุดรธานี
คู่แข่งขันของเพื่อไทย ถามว่ากระดูกแข็งแค่ไหน เพื่อไทยถึงแพ้ไม่ได้... ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนในฝั่งเพื่อไทยและเสื้อแดง คือ หาญชัย ฑีฆธนานนท์ อดีตนายก อบจ.อุดรธานีคนล่าสุด
แต่ตอนช่วงการเมืองเปลี่ยนขั้วมีการยุบพรรคพลังประชาชน กลุ่มเนวิน ชิดชอบและพวกอุดรธานี ในพลังประชาชนบางส่วนภายใต้การนำของ ธีระชัย แสนแก้ว ออกมาตั้งพรรคภูมิใจไทย และตั้งกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน ชูธงนโยบายปกป้องสถาบันขึ้น
นับแต่นั้นคนอุดรธานีก็มองว่า หาญชัย ฑีฆธนานนท์ ที่สนิทกับเนวิน ชิดชอบ ก็ปันใจไปอยู่กับขั้วสีน้ำเงินแบบกลายๆ แต่ก็ยังไม่ชัดมาก ทว่าเหตุที่ทำให้คนเสื้อแดงไม่พอใจตัวหาญชัย จนเลิกสนับสนุนทางการเมืองกัน
มีเรื่องเล่าว่า มาแตกหักในช่วงเสื้อแดงชุมนุมใหญ่มีนาคม-พฤษภาคม 53 ที่ช่วงปลายการชุมนุม เสื้อแดงอุดรธานีมีการยกพวกไปล้อมศาลากลางจังหวัดอุดรธานีตามคำสั่งของทักษิณและแกนนำ นปช.ส่วนกลาง แล้วคนเสื้อแดงอุดรธานีพยายามจะเข้าไปปักหลักล้อมศาลากลางจังหวัด และสถานที่ราชการสำคัญในอุดรธานี ก็ปรากฏว่าไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกทั้งเรื่องสถานที่และการช่วยเหลือต่างๆ จากตัวหาญชัย ทำให้คนเสื้อแดงฉุนขาดประกาศเลิกสังฆกรรมกับตัวหาญชัยนับแต่นั้น
เมื่อศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีมาถึง ฝ่ายนายหาญชัยก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะมีข่าวว่าก่อนหน้านี้ก็ไปพยายามติดต่อขอคุยกับทักษิณ ชินวัตร ว่าจะขอลงสมัครนายก อบจ.อุดรธานี ภายใต้การสนับสนุนของเพื่อไทยและเสื้อแดง เพื่อให้ไม่เหนื่อย
ทว่า ก็ต้องหน้าแหกกลับมาเพราะโดนเซย์โน มีหรือทักษิณจะยอมเพราะแม้ไม่ได้มาอุดรธานีหลายปี แต่ข้อมูลในพื้นที่ทั้งหมด บรรดา ส.ส.อุดรธานีของเพื่อไทยและขวัญชัย ไพรพนา ไม่พลาดรายงานละเอียดยิบ ผนวกกับพวก ส.ส.อุดรธานีและเสื้อแดงอย่างขวัญชัย ก็ต้องการคนที่คุยกันรู้เรื่องไปเป็นนายก อบจ.อุดรธานี อยู่แล้ว การจะส่งใครพวกนี้ก็ต้องเห็นว่าต้องเป็นคนที่จะทำประโยชน์ให้
ยิ่งในการประชุม ครม.สัญจรของรัฐบาลที่อุดรธานี เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเห็นชอบงบและโครงการพัฒนาจังหวัดอุดรธานีจำนวนมาก ก็ต้องมีคนไปคอยดูแลผลประโยชน์ตรงส่วนนี้ ความลงตัวจึงอยู่ที่วิเชียร ขาวขำ
สำหรับเบื้องหลังกว่าจะได้ข้อยุติมาเป็นตัว วิเชียร ขาวขำ ก็ปั่นป่วนไม่น้อยในเพื่อไทย เพราะเดิมผู้สมัครที่ ส.ส.อุดรธานีเกือบทั้งหมดของเพื่อไทยหนุนให้ลงก่อนหน้านี้ก็คือ ประสพ บุษราคัม ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย ลำดับที่ 93 ซึ่งน่าจะหมดโอกาสจะได้เป็นส.ส.ค่อนข้างแน่นอน เว้นแต่พวก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่ได้เป็นรัฐมนตรีพากันทยอยลาออกไปเรื่อยๆ แต่ก็คงปรับอีกหลายรอบ
บรรดาพวก ส.ส.อุดรธานี ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์และแกนนำเสื้อแดงอุดรธานี ก็เลยเห็นใจ ประสพ เพราะอายุก็ 70 ต้นๆ แล้ว ทำท่าจะกลับมาการเมืองยาก อีกทั้งก็เป็นคนที่อยู่กับเพื่อไทยมานานหลายปี ไม่เคยเรียกร้องขอตำแหน่งอะไร และเข้าได้กับ ส.ส.อีสานหลายจังหวัด จึงเป็นที่เคารพนับถือของ ส.ส.อุดรธานีหลายคน ก็เลยจะดันให้ไปเป็นนายกฯอบจ.อุดรธานี
แล้วจู่ๆ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เกิดปัญหาขึ้นเพราะเกิดเสียงแตกขึ้นในกลุ่ม ส.ส.อุดรธานี เพื่อไทย ทั้งที่เดิมตกลงกันไว้ดิบดี เหตุเพราะ กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ อดีต รมช.คมนาคมและ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่เป็นอดีต ส.ส.หนองบัวลำภูหลายสมัย จะดันลูกสาว คือ น.ส.โอปอล์ หัตถสงเคราะห์ ลงสมัครชิงนายกฯอบจ.ด้วยโดยอ้างว่าหนองบัวลำภู คือจังหวัดน้องที่แยกมาจากอุดรธานี ครอบครัวจึงมีรกรากและฐานเสียงอยู่ที่อุดรธานี อีกทั้งที่ผ่านมาก็ช่วยเหลือสนับสนุนแดงอุดรธานีมาตลอด ลูกสาวตัวเองจึงน่าจะต้องได้ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ด้วย
ส่วนอีกคน คือ พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี ก็เอาบ้าง จะดันลูกชาย นายปรมินทร์ พิมานเมฆินทร์ลงเป็นนายก อบจ.ด้วยเหมือนกัน
ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น เพราะหากเป็นแบบนี้ เท่ากับ “แดงเพื่อไทย-แดงอุดรธานี” จะส่งคนลงตัดคะแนนกันเอง ถึง 3 คนแทนที่จะผนึกกำลังกัน
โดยทั้งสามกลุ่มพยายามต่อสายตรงถึง ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหวังขอรับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากทักษิณ ให้สั่งมาเลยว่า สนับสนุนใครลงนายก อบจ.อุดรธานี ทั้งที่ทักษิณบอกมาตลอดว่า การเมืองท้องถิ่น ให้ในพื้นที่ไปตกลงกันเอง อย่าเอาพรรคไปเกี่ยว
ทำให้เกิดเหตุชลมุนตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะแต่ละฝ่ายก็พยายามวิ่งเข้าหาแกนนำพรรค
เช่นที่อุดรธานีก็มีข่าวว่าหลายคนพยายามเข้าบ้านพัก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่อุดรธานีเพื่อขอเสียงหนุน บางคนก็พยายามล็อบบี้กับผู้ใหญ่ในเพื่อไทยในส่วนกลางอย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค เพื่อให้ดันคนของตัวเอง
จนสุดท้ายคุยกันไม่ลงตัว เลยต้องให้ พล.ต.อ.ประชา หัวหน้าทีมอุดรธานี พาส.ส.อุดรธานีทั้งหมดทั้ง ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ ไปเปิดห้องคุยกันที่รัฐสภาเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยงยุทธ วิชัยดิษฐ ร่วมรับฟังการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
จากนั้นได้ข้อสรุปว่าเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งหมด ไม่มีใครเสียหน้า ก็ให้ วิเชียร ขาวขำ ลงสมัครโดยให้ลาออกจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ซึ่งก็จะไม่มีผลกระทบจนต้องมีการเลือกตั้งซ่อมเพราะเมื่อลาออกไปแล้ว ก็จะมีการเลื่อนลำดับผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับถัดไปขึ้นมา ทุกอย่างก็จบ
จากนั้น ส.ส.อุดรธานี ทั้งหมดของเพื่อไทย ก็ร่วมกันแถลงข่าวประกาศผนึกกำลังกัน หนุนหลังวิเชียร เต็มที่ แมตช์นี้แพ้ไม่ได้
เนื่องจากการลงสนามท้องถิ่นของวิเชียร ถือว่าชัดมากในการลงสมัครภายใต้ยี่ห้อเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ดังนั้น หากแพ้ขึ้นมาในจังหวัดที่เพื่อไทยชนะเลือกตั้งยกจังหวัดและเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง
ถ้าแพ้ขึ้นมารอบนี้ อ้างไม่ได้แน่นอนว่าเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น
เพื่อไทยจะแพ้อีกครั้งหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้แพ้มาแล้วหลายแห่งในสนามเลือกตั้งนายกฯอบจ.ทั้งที่ ปทุมธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา กลางเดือนมิถุนายนก็รู้
คนที่น่าเห็นใจก็คือ ประสพ บุษราคัม ที่มีการไปอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ ลุยหาเสียงได้ไม่เต็มที่ จึงขอเปลี่ยนตัว ทั้งที่เจ้าตัวสุขภาพแข็งแรงดีทุกประการ แต่มาโดนหลอกให้ดีใจเก้อ
สงสัยเจ้าตัวคงรำพันในใจ เฮ้อ กูละเบื่อ